
ด้าน นายสำราญ รื่นนาค นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนประมงจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าปีนี้ผลกระทบจากน้ำโขง ที่มีระดับน้ำต่ำต่อเนื่องมาหลายปี ถ้าเทียบกับหลายปีที่ผ่านมาทั้งในช่วงฤดูฝน รวมถึงฤดูแล้ง น้ำโขงลดเร็ว สิ่งที่ตามมาคือ น้ำโขงไม่หนุนลำน้ำสาขา ลำน้ำสงคราม ลำน้ำอูน ที่เป็นพื้นที่ เพาะพันธุ์ปลา ในช่วงฤดูฝนปลาน้ำโขงจะขึ้นไปวางไข่ ทำให้ระบบนิเวศน์เสียหาย ปลาน้ำโขงเริ่มสูญพันธุ์หายาก นอกจากนี้จะเห็นว่า เกิดปรากฎการณ์น้ำโขงเป็นสีครามคล้ายทะเลสวยงาม ถึงแม้จะดูตื่นตา สวยงาม แต่แฝงด้วยความเสียหายของระบบนิเวศน์ตามมา เพราะเกิดจากน้ำโขงแห้งไม่ไหลเวียน จึงตกตะกอน จนกลายเป็นสีฟ้า เนื่องจากธรรมชาติของน้ำโขงจะต้องไหลเวียน สีขุ่น จึงจะทำให้มีความอุดมสมบูรณ์จากแพงตอนในน้ำ แต่หลังน้ำโขงแห้งทำให้ตกตะกอน จนกลายเป็นสีทะเล กระทบหนักสำหรับอาชีพประมง ทั้งหาปลาในน้ำโขง รวมถึงเลี้ยงปลากระชัง เนื่องจากน้ำโขงจะมีปริมาณออกซิเจนต่ำ เสี่ยงต่อปัญหาน็อกน้ำตาย และหาปลาน้ำโขงยากขึ้น เพราะเกิดการสูญพันธุ์ เมื่อน้ำโขงไม่หนุนตามฤดูกาล ปลาจะไม่สามารถไปวางไข่ต้นน้ำได้ คือลำน้ำสงคราม เบื้องต้น จากข้อมูลหน่วยงานประมง ปกติจะมีปลาน้ำโขงกว่า 1,000 ชนิด ปัจจุบันได้เริ่มสูญพันธ์ไปกว่า 100 ชนิด และในช่วงนี้ทำให้ตลาดปลาน้ำโขงซบเซาหายากมากขึ้น ทั้งสภาพอากาศ และความเปลี่ยนแปลงของน้ำโขง นับวันยิ่งกระทบหาปลายากมากขึ้น ทางประมงกำลังเร่งวางแผนหาแนวทางจัดพื้นที่อนุรักษ์ ขยายพันธุ์ รวมถึงวางแนวเขต ส่งเสริมพื้นที่การอนุรักษ์พันธุ์ปลาน้ำโขงเพิ่มมากขึ้น ในน้ำโขง รวมถึงลำน้ำสาขา
ที่มา : นครสารออนไลน์