ฝนถล่มนครพนม ไบค์เลนริมโขงทรุด อุตุฯเตือน ผลกระทบ”ดีเปรสชัน”

0
749 views

นครพนม ฝนตกต่อเนื่อง ดินตลิ่งน้ำโขงสไลด์ เส้นทางปั่นจักรยานทรุด สั่งปิดจุดเสี่ยง หวั่นเกิดอันตรายกับนักปั่น อุตุฯเตือน ผลกระทบ “ดีเปรสชัน” ทำฝนตกหนัก

วันที่ 2 ก.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง หลังตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาได้มีฝนตกหนัก ส่งผลกระทบให้หลายพื้นที่เริ่มเกิดปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตร เนื่องจากไหลระบายลงลำน้ำสาขาไม่ทัน ส่วนระดับน้ำโขงยังทรงตัวที่ประมาณ 3 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติที่ประมาณ 10 เมตร เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาในช่วงเดือนเดียวกัน พบว่าระดับน้ำโขงต่ำกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 3 เมตร

ทางจังหวัดนครพนมยังคงประกาศเตือนให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนในพื้นที่เสี่ยงติดกับแม่น้ำโขง 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.บ้านแพง อ.ท่าอุเทน อ.เมือง และ อ.ธาตุพนม เฝ้าระวังฝนตกหนักต่อเนื่อง เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน รวมถึงดินริมตลิ่งทรุด และเตรียมพร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง เตรียมให้การช่วยเหลือหากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน

ล่าสุด หลังระดับน้ำโขงผันผวน ส่งผลกระทบให้ดินริมตลิ่งแม่น้ำโขงเกิดสไลด์ตัวทรุดเป็นทางยาวเกือบ 1 กิโลเมตร ตลอดแนวริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ช่วงหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดหลังเก่า ยาวไปถึงชุมชนหนองแสง ทำให้เส้นทางจักรยานริมฝั่งแม่น้ำโขงที่มีการก่อสร้างยื่นออกไปจากเขื่อนป้องกันตลิ่งแม่น้ำโขง เกิดทรุดตัวพังเสียหายเป็นแนวยาวระยะทางกว่า 500 เมตร

เบื้องต้นทางจังหวัดนครพนมได้ประสานเจ้าหน้าที่จากสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าเกิดจากปัญหาดินริมตลิ่งสไลด์ตัว เป็นเหตุให้ตอม่อฐานล่างรับน้ำหนักที่ฝังริมตลิ่งทรุดตัวแตกร้าว และเส้นทางจักรยานพังถล่มเสียหาย ซึ่งได้มีการปิดกั้นห้ามประชาชนเข้าใกล้พื้นที่ ป้องกันอันตราย และห้ามนักปั่นจักรยานใช้เส้นทางจักรยานที่เป็นจุดเสี่ยง เพื่อเร่งตรวจสอบแก้ไข

ขณะเดียวกันได้มีประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา “พายุดีเปรสชัน” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 2-4 กรกฎาคม 2562) ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 02 กรกฎาคม 2562

เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ (2 ก.ค. 62) พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 280 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของเกาะไหหลำ ประเทศจีน หรือที่ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งระหว่างประเทศเวียดนามตอนบนและประเทศจีน ในช่วงวันที่ 3-4 ก.ค. 62 ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปประเทศเวียดนามตอนบนควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย

โดยจะมีผลกระทบตามภาคต่างๆ ดังนี้

วันที่ 2 กรกฎาคม 2562
ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม อำนาจเจริญ ขอนแก่น ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคตะวันออก: จังหวัดจันทบุรี และตราด

ในช่วงวันที่ 3-4 กรกฎาคม 2562

ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร ตาก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร กาฬสินธุ์ ยโสธร ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี นครปฐม สุพรรณบุรี ลพบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต

อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.

ที่มา : https://www.thairath.co.th

แสดงความเห็น

comments