วันที่แม่รอคอย หนุ่มนครพนม พ้นคุก ศาลยกฟ้องคดีฉกเพชร 15 ล้าน

0
3,041 views

ศาลอาญาธนบุรี ยกฟ้องหนุ่มแพะ ชาวนครพนม คดีฉกเพชร 15.8 ล้าน ปี 59 ชี้ หลักฐานโจทก์อ่อน-ออกหมายปล่อยตัวเย็นนี้ ขณะที่เจ้าตัวดีใจ ก้มลงกราบแม่…

เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ศาลอาญาธนบุรี อ่านคำพิพากษา ในคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญาธนบุรี 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายพิสิษฐ์ สุวรรณพิมพ์ ชาวจังหวัดนครพนม ซึ่งตกเป็นจำเลยในคดีวิ่งราวทรัพย์และกักขังหน่วงเหนี่ยว จากกรณี นายพิสิษฐ์ ถูกกล่าวหาว่า ทำการวิ่งราวเพชรมูลค่า 15.8 ล้านบาท ไปจากผู้เสียหาย ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางแวก เมื่อช่วงปี 2559 และนายพิสิษฐ์ ถูกตำรวจตามไปควบคุมตัวได้ที่ จ.นครพนม โดยผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของเพชรที่กรุงเทพฯ ได้ชี้ตัวยืนยัน ว่าคนร้ายคือนายพิสิษฐ์

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐาน จากโจทก์จำเลยแล้วเห็นว่าคดีนี้พยาน 2 ราย ซึ่งเคยพบเห็นคนร้ายถึง 2 ครั้ง ยืนยันว่าคนร้าย มีรูปร่างท้วม ผิวดำแดง สูงประมาณ 158 เซนติเมตร ริมฝีปากล่างเผยอออกมา และเมื่อทนายจำเลย นำภาพถ่ายของจำเลย ไปให้พยานชี้ตัว ยืนยันว่า จำเลยไม่ใช่คนร้ายที่ก่อเหตุ ขณะที่ผู้เสียหาย ซึ่งทำการซื้อขาย ราคา 15.8 ล้านกับคนร้ายที่บ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางแวก กลับให้การสับสน เกี่ยวกับรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย และจำเลย ประกอบกับพนักงานสอบสวนไม่ทำการตรวจดีเอ็นเอ โต๊ะที่เกิดเหตุ ที่คนร้ายนั่งคุยกับผู้เสียหาย เพื่อมาเปรียบเทียบยืนยันว่าคนร้าย คือจำเลยหรือไม่

รวมทั้งหมายเลขโทรศัพท์ 062-3857977 ที่ผู้เสียหายอ้างว่า คนร้ายใช้เบอร์โทรศัพท์นี้โทรมาติดต่อเรื่องของการซื้อเพชร และเมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ การจดทะเบียนซิมพบว่าเป็นชื่อของนายพิสิษฐ์ จำเลย แต่พนักงานสอบสวนไม่ทำการหาหลักฐานมายืนยันว่าในการจดทะเบียนซิมนั้นนายพิสิษฐ์ ได้นำบัตรประจำตัวประชาชนของตนเองไปแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ ais ด้วยตนเองหรือไม่

พยานหลักฐานของโจทก์ จึงยังรับฟังไม่ได้ว่าคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นั้น คือตัวจำเลย ตามฟ้องโจทก์ และจำเลยได้นำพยานที่อยู่ในจังหวัดนครพนมมาเบิกความเกี่ยวกับเรื่องของถิ่นที่อยู่ ศาลจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยอีก จึงพิพากษายกฟ้องและให้ออกหมายปล่อยจำเลยตามผลของคำพิพากษา

อย่างไรก็ตามหลังทราบผลคำพิพากษาแล้ว นายพิสิษฐ์ ได้ก้มลงกราบมารดา ภายในห้องพิจารณาคดี และเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม ที่ให้การช่วยเหลือทางคดี ได้เข้าไปแสดงความยินดีกับนายพิสิษฐ์ ด้วย

นายดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษา ว่า คดีนี้หลังกระทรวงยุติธรรมได้รับเรื่องร้องเรียนจากญาติจำเลย จึงสั่งการให้ดีเอสไอ ทำการตรวจสอบพยานหลักฐาน ก็พบพิรุธในหลายเรื่อง และการที่ศาลมีคำพิพากษาในวันนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นบรรทัดฐานให้กับสังคม และพนักงานสอบสวน ควรทำคดีให้มีความรอบคอบ

ที่มา : http://www.thairath.co.th

แสดงความเห็น

comments