สมศักดิ์ เทพสุทิน พร้อมคณะ รุดเปิดสนามชนไก่ นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือ ครูแก้ว ยัน ไม่เกี่ยวการเมือง ท่านสมศักดิ์ แค่มาแสดงความยินดีเปิดสนามชนไก่ สร้างอาชีพชุมชน ยัน ยังอยู่กับภูมิใจไทย ด้านสมศักดิ์ยังอุบขอดูทิศทางอีกสักระยะ เอาไว้ถึงเวลาจะสรุปอีกรอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สนามกีฬาชนไก่ ไทศรีสงคราม ตลาดพูนสุข ในเขตเทศบาลตำบลศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายทรงศักดิ์ ทองศรี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายธีระชัย แสนแก้ว อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาร่วมเป็นประธานในการเปิดสนามกีฬาชนไก่ ไทศรีสงคราม ของ นายศุภชัย โพธิ์สุ (ครูแก้ว) อดีต ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย และยังเคยดำรงตำแหน่ง เป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นางพูนสุข โพธิ์สุ รองนายก อบจ.นครพนม ซึ่งได้มีการผลักดันพัฒนากับกลุ่มการเมืองท้องถิ่น รวมถึงกลุ่มที่ชอบเลี้ยงไก่ชน ดำเนินการก่อสร้าง สนามกีฬาชนไก่ไทศรีสงคราม ขึ้น ที่สำคัญยังเป็นสนามกีฬาชนไก่ ที่มาตรฐาน ถูกต้องตามกฎหมายขนาดใหญ่ของภาคอีสาน รองรับบรรดาเซียนไก่ ที่ชอบกีฬาชนไก่ ได้กว่า 1,000 คน และจะมีการเปิดชนไก่ ทุกวันอาทิตย์ ที่จะเป็นการสร้างเศรษฐกิจ การค้า คึกคักมากขึ้น ที่สำคัญจะเป็นฐานในการพัฒนา ต่อยอด ส่งเสริมให้เกษตรกร ได้เลี้ยงไก่ชน สร้างรายได้ เพิ่มมูลค่าไก่ชนพื้นบ้าน ในครั้งนี้ มีบรรดานักการเมืองท้องถิ่น แกนนำการเมือง รวมถึงประชาชน นักท่องเที่ยว มาร่วมพิธีเปิดกันคึกคัก ซึ่งทาง นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืนยันว่า ในการเปิดสถานชนไก่ ครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่เป็นการชอบส่วนตัว และต้องการสร้างฐาน ในการเพิ่มมูลค่าให้กับอาชีพเลี้ยงไก่ชนพื้นที่ เป็นการช่วยเหลือเกษตรกร มีอาชีพ มีรายได้เพิ่มขึ้น
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้มาแสดงความยินดีกับ ครูแก้ว ในโอกาสเปิดสถานกีฬาชนไก่ มาตรฐานขนาดใหญ่ ถือว่าเป็นเรื่องดี และตนได้ดำเนินการมาก่อนที่กรุงเทพฯ ยืนยันว่า ไก่ชนเป็นสัตว์เลี้ยงการเกษตรที่สร้างรายได้จำนวนมาก ปัจจุบัน จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า มีคนเลี้ยงไก่ 33 ล้านครอบครัว แยกเป็นไก่ชนประมาณ 100 ล้านตัว มีการส่งออก ประมาณเดือนละมากกว่าแสนตัว คิดขั้นต่ำตัวละประมาณ 10,000 บาท ถือว่าเป็นอาชีพที่มีรายได้มากพอสมควร เพราะมีราคาแพงหากมีการพัฒนาต่อยอด สร้างมาตรฐานจะมีราคาแพงมากขึ้น เพราะไก่ชนบางตัวมีราคาสูงมากถึงตัวละล้าน และถ้ามีการส่งเสริมต่อเนื่องจากเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สร้างรายได้มหาศาล และขอขอบคุณทางรัฐบาลที่มีการอนุญาต เปิดสนามกีฬาชนไก่ เพราะจะส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจมากขึ้น
ส่วนเรื่องการเมืองนั้น ทุกวันนี้ตนยังทำการเมืองภาคประชาชนปกติ ไม่ว่าจะมีการเลือกตั้ง หรือไม่เลือกตั้ง ยังคงทำงานการเมืองตลอดและหาทางช่วยเหลือชาวบ้านเพื่อให้มีอาชีพยั่งยืน แต่มาถึงวันนี้หากถามว่า จะมีทิศทางพรรคไปทางไหน ตอนนี้ตนยืนยันว่า ยังตอบไม่ได้เพราะการเมืองถือว่า ยังไม่ถึงจุดที่จะสรุป ขอดูทิศทางอีกระยะ และยังไม่สามารถจะบอกได้ว่า จะไปสังกัดพรรคไหน หรือเดินหน้าสนับสนุนใคร อย่างไรก็ตามตนยังเชื่อว่าช่วงนี้ยังเป็นการแลกเปลี่ยนหารือระหว่างฝ่ายการเมืองทุกฝ่าย เอาไว้ถึงเวลาสรุปค่อยมาคุยกันอีกรอบ
นายศุภชัย โพธิ์สุ (ครูแก้ว) อดีต ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย และยังเคยดำรงตำแหน่ง เป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สำหรับสนามกีฬาชนไก่ ไทศรีสงคราม ที่มีการเปิดขึ้น นั้น เป็นสนามมาตรฐาน ถูกต้องตามกฎหมาย ตนและทีมงาน ได้ผลักดันให้เกิดขึ้น เพราะต้องการที่จะต่อยอด ส่งเสริมอาชีพเลี้ยงไก่ชนพื้นบ้าน ให้ชาวบ้านมีรายได้ มีอาชีพเพิ่มขึ้น จากที่เคยเลี้ยงตามวิถีชีวิต เพราะเชื่อว่าไก่ชนเป็นสัตว์เลี้ยงการเกษตร ที่มีมูลค่าสูง หากมีการต่อยอด พัฒนาส่งเสริมที่ดี ยิ่งจะส่งผลดีต่อการเลี้ยง ของเกษตรกร เบื้องต้นได้ร่วม กับ อบจ.นครพนม เข้ามาอบรมให้ความรู้ ส่งเสริมอาชีพเลี้ยงไก่ชน และจะมีการขยายฐานการผลิตไก่ชน ให้มีตลาดกว้างขึ้น นอกจากนี้ จุดนี้จะเป็นตลาดนัดไก่ชนที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนไก่ชน ที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน และจะเกิดผลดีต่อภาคเศรษฐกิจการท่องเที่ยวด้วย
ส่วนเรื่องการเมืองตนยอมรับว่า มาถึงวันนี้ ยังยืนยันต่อพี่น้องประชาชนว่า ทำงานการเมืองมานาน เคยสังกัดหลายพรรค และเคยดำรงตำแหน่งอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรมาด้วย ถึงวันนี้ตนยังยืนยันว่า ตนยังรักภูมิใจไทยและยังจะทำงานกับพรรคภูมิใจไทยต่อเนื่อง ไม่ว่าทิศทางการเมืองไปทางไหน เพราะหัวใจสำคัญตนไม่ได้สำคัญที่พรรค แต่ตนต้องการทำงานเพื่อประชาชนเป็นหลัก ต้องการดูแลช่วยเหลือประชาชนให้มีอาชีพมีรายได้ยั่งยืน ที่สำคัญในสนามการเมืองครั้งนี้ ตนเชื่อว่าทุกอย่างจะจบด้วยดีไม่มีความขัดแย้ง และประชาชนจะเข้าใจการเมืองมากขึ้น รู้วิธีการเลือกนักการเมือง ที่ทำงานเพื่อประชาชนแท้จริง โดยเชื่อมั่นการที่จะหวังแค่กระแสพรรคไม่ได้ ต้องอาศัยผลงานบุคคลเป็นหลัก และในส่วน ของ ท่าน สมศักดิ์ เทพสุทิน มาในวันนี้ยืนยันว่าไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการเมือง แต่เป็นการเคารพสนิทสนมส่วนตัว จึงมาร่วมงานแสดงความยินดีต่อกันเท่านั้น แต่เรื่องพรรคเป็นแนวทางส่วนตัว ไม่ก้าวก่ายกัน
ที่มา : https://www.thairath.co.th