ตร.นครพนม เร่งเก็บดีเอ็นเอ 2 ผู้เสียหาย สงสัยศพถูกฆาตกรรมโหดเป็นญาติ คาด 2 อาทิตย์รู้ผล มุ่งปมฆ่าจากนอกประเทศ ยังไม่ฟันธงเป็นผู้ลี้ภัยการเมือง
วันที่ 5 มกราคม 2562 ที่ จ.นครพนม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า คดีพบศพชายนิรนามถูกฆาตกรรมโหด ถูกล็อกกุญแจมือ คว้านท้องมัดรวมกับท่อนปูนยัดกระสอบป่าน 2 ศพ ไหลมากับน้ำโขง ซึ่งศพแรก พบในพื้นที่ริมน้ำโขง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2561 และศพที่ 2 พบในพื้นที่ อ.เมืองนครพนม เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2561 ภายหลังตำรวจได้เร่งตรวจสอบเก็บหลักฐาน ชันสูตรหาที่มา และอยู่ระหว่างการส่งศพไปตรวจชันสูตร และหาดีเอ็นเอ ที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น
ล่าสุดได้มีผู้เสียหาย ที่มีญาติสูญหายจาก กทม. เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อขอตรวจสอบ หลังสงสัยว่าศพถูกฆาตกรรมโหด ทั้ง 2 ศพ จะเป็นญาติที่สูญหายไป ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2561 แต่ยังไม่ยืนยัน เนื่องจากสภาพศพเน่าเปื่อย โดยทางตำรวจได้มีการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ของผู้เสียหาย และรวบรวมข้อมูล เพื่อนำไปเทียบเคียงกับผลการชันสูตรศพ ทั้ง 2 ราย คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ จะรู้ผล
ด้าน พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ตำรวจได้มีการเก็บหลักฐานตรวจชันสูตรไว้เบื้องต้น และมีการส่งต่อไปตรวจชันสูตร ที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น อยู่ระหว่างการรอผล ส่วนประเด็นปมที่มาการฆาตกรรม เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลหลักฐาน ที่พบศพ มุ่งประเด็นมีการฆาตกรรมนอกประเทศ จากประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากมีหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับกุญแจมือ ซึ่งตรวจสอบข้อมูลแล้วไม่มีใช้ในไทย และส่วนใหญ่จะใช้ในประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ ล่าสุดได้มีญาติของผู้เสียหาย 2 ราย ที่มีการร้องทุกข์ว่า มีญาติสูญหาย ไปตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน และให้ข้อมูล พร้อมขอตรวจดีเอ็นเอ เพื่อนำไปเทียบเคียงกับศพที่ถูกฆาตกรรมทั้ง 2 ศพ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ว่าเป็นใคร ซึ่งต้องรอผลการตรวจเทียบเคียงดีเอ็นเอยืนยัน แต่ทางญาติยังไม่มั่นใจ เพียงต้องการขอตรวจพิสูจน์ หาความชัดเจน
ส่วนประเด็นเรื่องมีข่าวเกี่ยวกับผู้ตายว่าเป็นกลุ่มผู้ลี้ภัยการเมืองนั้น ทางตำรวจ ยังไม่ขอยืนยัน เพราะทุกอย่างต้องขึ้นกับพยานหลักฐาน รวมถึงผลการตรวจดีเอ็นเอ หรือเบาะแสจากผู้เสียหาย รวมถึงญาติที่มาให้ข้อมูลแสดงกับทางตำรวจเท่านั้น จึงจะสามารถยืนยันว่าเป็นใครได้ โดยทางตำรวจได้ประสานไปยังโรงพักทุกท้องที่ที่มีการแจ้งบุคคลหาย ให้ญาติมาตรวจสอบให้ข้อมูล รวมถึงประสานทางการลาว ให้มีการตรวจสอบ หากไม่มีญาติผู้เสียหายมาติดต่อ หรือผลการตรวจดีเอ็นเอของผู้เสียหายที่มาติดต่อไม่ตรงกัน ทางตำรวจต้องมีการเก็บรักษาศพเป็นศพไร้ญาติ รอจนกว่าจะมีญาติมาตรวจพิสูจน์
ซึ่งประเด็นน้ำหนักการฆาตกรรม ทางตำรวจยังให้น้ำหนักมาจากนอกประเทศ เนื่องจากมีการตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่า ลักษณะการฆาตกรรม ในแผนประทุษร้ายลักษณะนี้ไม่มีในไทยมาก่อน แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นๆ ที่เชื่อมโยง รอผลการชันสูตรอีกครั้ง.
ที่มา : https://www.thairath.co.th
