
ภาพถ่ายโฮจิมินห์



บ้านลุงโฮที่จังหวัดนครพนม
บ้านหลังน้อยของลูงโฮในจังหวัดนครพนม ซุกตัวอยู่เงียบๆท่ามกลางแมกไม้ร่มครึ้ม ดูดดึงให้เราจินตนาการไปต่างๆนาๆเมื่อครั้งที่ลุงโฮเข้ามาเคลื่อนไหวทำการปฏิวัติสู้กับมหาอำนาจฝรั่งเศษราวปี1928-1929 สิ่งของทุกอย่างแม้ไม่ใช่ของเดิมที่ลุงโฮเคยใช้(ส่งมอบคืนให้เวียดนาม) แต่สิ่งของที่จำลองไว้ก็ถูกจัดวางไว้ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลงทุกครั้งที่ผมมาเยี่ยมบ้านลุงโฮ สิ่งหนึ่งที่ผมทำทุกครั้งหากไม่ถูกรบกวนจากนักท่องเที่ยว(ผู้ขาดจิตสำนึกในการเคารพสถานที่อันเป็นประวิติศาสตร์ที่สำคัญ) คือ..ผมจะมายืนสงบนิ่ง สบตากับลุงโฮในภาพถ่ายที่ห้อยไว้ข้างฝา แววตาอันแกร่งกล้ามุ่งมั่นและรอยยิ้มน้อยๆหากแต่มองแล้วอบอุ่น เหมือนกับท่านกำลังจะบอกกับผมว่า..”หากเชื่อและศรัทธาในสิ่งที่กำลังทำอยู่ว่าเป็นความถูกต้อง เราได้ประโยชน์ สังคมได้ประโยชน์ ก็จงลงมือทำอย่าย่อท้อ สักวันหนึ่งเราจะมีชัย”
ครอบครัวลุงโฮ เป็นครอบครัวปัญญาชนผู้รักชาติ

ภาพที่1 เหงียน ซิง ซัก (บิดา)

2 ฮว่าง ถิ ลาน (มารดา)

3 เหงียน ถิ แทง (พี่สาว)

4 เหงียน ซิง เคียม (พี่ชาย)

5 เหงียน อ๊าย ก๊วก (ลุงโฮ)

ผู้หญิงในภาพนี้คือ ทายาทคนสนิทของลุงโฮเมื่อครั้งเ
ข้ามาเคลื่อนไหวในประเทศไทย (ผมเข้า-ออกบ้านลุงโฮบ่อย -เธอขอร้องไม่ให้เอ่ยนาม) ครั้งนี้เธอหลุดปากบอกผมสั้นๆว่า ประวัติศาสตร์ลุงโฮช่วงอยู่ประเทศไทยหลายอย่างคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงมาก จะด้วยเหตุผลใดไม่ทราบ โดยเฉพาะการเข้ามาเคลื่อนไหวในไทยครั้งแรกของลุงโฮ
ในหนังสือบางเล่มบอกว่าลุงโฮเคลื่อนไหวในอินโดจีนแล้วเข้ามาไทย แต่ในข้อเท็จจริงที่เธอทราบจากบิดา(คนสนิทลุงโฮ) วันนั้นลุงโฮบินตรงมาจากยุโรป(เยอรมัน) ไม่ใช่ในอินโดจีนอย่างที่เข้าใจ
ในตอนท้ายของการสนทนาสั้นๆ เธอกล่าวอย่างน้อยใจว่า บิดาของเธอเป็นคนสนิทของลุงโฮและเคลื่อนไหวปฏิวัติมาด้วยกัน แต่ไม่เคยถูกเอ่ยถึงในประวัติศาสตร์ ความจริงบิดาของเธอเข้ามาเคลื่อนไหวในไทยก่อนลุงโฮกว่าสิบปี สร้างองค์กรลับจนเป็นปึกแผ่นพอสมควรแล้ว ลุงโฮถึงเดินทางเข้ามา ซึ่งก็ได้รับการช่วยเหลือจากบิดาของเธอจนได้มาพำนักที่นครพนม

ลุงโฮในสมรภูมิรบ

ลุงโฮและคณะนายทหารกำลังประชุมเพื่อวางแผนเข้าโจมตี ค่ายเดียนเบียนฟู
ซึ่งเป็นกองกำลังของฝรั่งเศส

ในที่สุดกองทัพปฏิวัติของลุงโฮก็ได้ชัยชนะ ที่เดียนเบียนฟู

ภาพถ่ายช่วงวัยกลางคน ในสมรภูมิรบ

บ้านพักคนสนิทลุงโฮ ที่เข้ามาเคลื่อนไหวจัดตั้ง ต่อมากลายเป็นที่พักลุงโฮเป็นจุดแรกในจังหวัดนครพนม(บ้านนาจอก เขตอำเภอเมือง)

ต่อมาลุงโฮได้สร้างกระท่อมขึ้นมาอีกหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ด้านหลังของบ้านคนสนิทเพื่อต้อนรับสหายปฏิวัติซึ่งเดิน
ทางมาสมทบเป็นระยะๆ เนื้อที่ราวๆ80ตารางวา ถูกแบ่งออกเป็นสามห้อง คือสองห้องนอน หนึ่งห้องโถง
เหตุผลที่สร้างห้องนอนขนาดเล็กส

โต๊ะกลางห้องโถง จะมีป้านน้ำชาวางเคียงข้างกล้องสูบฝิ่นเสมอ

ที่ทำการสมาคมร่วมมือ (องค์กรลับเคลื่อนไหวการปฏิวัติของลุงโฮ) ในจังหวัดสกลนคร ที่ลุงโอเคยพักอาศัยในราวปี 1928-1929
(อยู่ในระหว่างการสืบค้นว่า ที่ทำการฯในภาพถ่าย อยู่ที่จุดใดของสกลนครในปัจจุบัน)
(อยู่ในระหว่างการสืบค้นว่า ที่ทำการฯในภาพถ่าย อยู่ที่จุดใดของสกลนครในปัจจุบั

ภาพชายชรารูปร่างผอม ชอบสูบยาฉุนมวนด้วยใบตองกล้วย แบกจอบแบกเสียมทำงานปลูกผักปลูกข้าวทำงานร่วมกับคนอื่นๆเป็นกิจวัตร เป็นภาพที่คุ้นตาของคนไทยท้องถิ่นบ้านนาจอก-ดอนโมงค์ โดยไม่มีใครระแคะระคายเลยว่า ชายผู้นี้คือผู้นำการปฏิวัติปลดแอกเวียตนาม

เกือบ80ปีของการเกิดและต่อสู้ปฏิวัติของลุงโฮ เราแทบจะไม่ได้ยินนักปฏิวัติท่านนี้พูดออกมาว่า..”รักชาติ”
เหตุผลที่ผมนำเอาข้อมูลบางด้าน ประวัติศาสตร์บางตอนของลุงโฮ มาให้ทุกท่านได้อ่าน เหตุผลเดียวคือ..ต้องการเตือนสติสำนึกของตัวผมเองและคนไทยทั้งชาติว่า..ไอ้ที่เราแหกปากว่า..”รักชาติ” กันทุกเมื่อเชื่อวัน ในทางปฏิบัติแล้วเราได้ทำมันลงไปบ้างสักเสี้ยวหนึ่งของคำพูดนั้นหรือยัง??

ร่วมเป็นร่วมตายในสมรภูมิกับสหายร่วมอุดมการ


ทำงานหนักทั้งเรื่องเอกสารและในสมรภูมิในการปลดแอกเวียตนามจากฝรั่งเศส
นักปฏิวัติผู่ยืนข้างประชาชน และไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรเลยเมื่อเสียชีวิต
เขาจึงกลายเป็นมนุษย์กึ่งพระเจ้าสำหรับชาวเวียตนาม

ที่ทำการสมาคมมิตรภาพไทย-เวียตนาม
จังหวัดนครพนม
ขอขอบพระคุณข้อมูล จาก : http://www.oknation.net/blog/plardeakdee