แจ้งข้อหา 2 ทหารปืนดุ ทำร้ายร่างกายหนุ่มนครพนมเสียชีวิต

0
1,008 views

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เผยแจ้งข้อหา 2 ทหารหนุ่ม ทำร้ายร่างกาย นายพัฒนพงษ์ เสียชีวิตแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมายไม่มีข้อยกเว้น ด้านพ่อผู้ตายยันไม่มีไกล่เกลี่ย เอาผิดถึงที่สุด ยอมเก็บศพไว้จนคนทำถูกลงโทษ

(9 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้า กรณี นายดุสิต อายุ 65 ปี พร้อมญาติพี่น้อง ได้ออกมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม หลัง นายพัฒนพงษ์ อายุ 36 ปี ลูกชายเสียชีวิต เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2561 เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่ทหารชุดรักษาความสงบเรียบร้อย กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 นครพนม ทำร้ายร่างกายใช้อาวุธปืนยิงที่ขาขวา 1 นัด ก่อนใช้ไม้ทุบตีศีรษะจนเสียชีวิต แต่ไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินคดี รวมถึงความชัดเจนในการเยียวยาช่วยเหลือ จนต้องออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ

แม้ว่าล่าสุด พล.ต.สมชาย ครรภาฉาย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 นครพนมจะออกมายืนยันว่าหน่วยงานทหารไม่มีการทอดทิ้ง และเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปดูแลระงับเหตุ โดยก่อนหน้านี้ทางฝ่ายทหาร ยืนยันว่า ได้มีการเข้าไปดูแลช่วยเหลือ นำเงินสดจำนวน 10,000 บาท เข้าไปช่วยเหลือจัดงานศพ ส่วนการดำเนินการด้านอื่นๆ ทั้งการสอบสวนเอาผิด รวมถึงการชดเชยเยียวยา ไม่ได้เพิกเฉยอยู่ระหว่างการเจรจาตกลง และพร้อมที่จะดูแลช่วยเหลือ

ขณะที่ พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า หลังจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2561 ตำรวจได้ทำการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ตามขั้นตอนของกฎหมาย และเรียกตัวทหารเกี่ยวข้องมาสอบสวน จนกระทั่งมีการแจ้งข้อกล่าวหากับทหาร 2 นาย ที่ทำร้ายร่างกาย นายพัฒนพงษ์ อายุ 36 ปี จนเสียชีวิตแล้ว ถึงแม้จะยืนยันว่าเป็นการระงับเหตุหรือปฏิบัติหน้าที่ แต่ทางตำรวจจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยไม่มีละเว้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ หรือเป็นประชาชนธรรมดา

จากการสอบสวนเบื้องต้น ทหารทั้ง 2 นาย คือ จ.ส.อ.กิติตศัพท์ อิททร์ติยะ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้เสียชีวิต จำนวน 3 นัด ทำให้กระสุนถูกขาขวาผู้ตาย 1 นัด และ ส.ต.ธีรวัฒน์ ไชยขันธ์ อายุ 22 ปี ทั้ง 2 นาย เป็นทหารชุดรักษาความสงบเรียบร้อย กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 นครพนม ที่ร่วมกันใช้ไม้ทุบตี จนเป็นเหตุให้นายพัฒนพงษ์เสียชีวิต

ซึ่งทางตำรวจได้มีการตรวจสอบชันสูตรศพ เบื้องต้นไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด โดยทั้ง 2 นาย ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร เป็นที่เรียบร้อย ในข้อหา ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย อยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว รอขั้นตอนการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ทำสำนวนส่งอัยการตามขั้นตอน

ทั้งนี้ ทหารทั้ง 2 นาย ให้การเบื้องต้นว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ระงับเหตุป้องกันตัว เพราะผู้ตายอาละวาด พยายามจะใช้อาวุธมีดฟันต่อสู้ จึงต้องหาทางป้องกันตัว โดยทหารทั้ง 2 นาย ยังได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ตายเช่นกัน ในข้อหาต่อสู้ขัดขืนเจ้าพนักงานและทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งทางตำรวจจะได้ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ขอให้ประชาชนมั่นใจ ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมายตรงไปตรงมา ผิดถูกว่าไปตามข้อเท็จจริง ไม่มีละเว้น

นายดุสิต พ่อผู้เสียชีวิต ตลอดจนญาติพี่น้อง ยังคงแสดงความไม่พอใจ ยืนยันว่าทางทหารกระทำเกินกว่าเหตุ จะเดินหน้าเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 3 นาย ที่ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายลูกชายจนเสียชีวิต ซึ่งจะไม่มีการเจรจาไกล่เกลี่ย แต่จะให้มีการดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด และปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสิน และจะขอเก็บศพลูกชายไว้ไม่เผา จนกว่าคนทำผิดจะได้รับโทษ

นอกจากนี้ ยืนยันว่า จะไม่มีการไกล่เกลี่ยใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายขั้นเด็ดขาด ให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสิน เพราะยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันเลวร้ายสุดในชีวิต ถึงแม้ทหารจะอ้างว่า ปฏิบัติหน้าที่ระงับเหตุ แต่รู้แก่ใจว่า ไม่ได้มีเหตุรุนแรงอะไร เพียงตนประสานให้มาคุมตัวลูกชาย ไปเพื่อนำส่งไปตรวจรักษา เพราะป่วยเป็นโรคเครียด เกรงว่าจะทำร้ายคนอื่น

แต่ที่ผ่านมายังไม่มีเหตุการณ์รุนแรง หรือทำร้ายใคร เพราะพื้นฐานลูกชายเป็นคนมีความรู้ มีการศึกษา จบการศึกษาถึงชั้นระดับปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เพียงแต่ป่วยจากโรคเครียด จากปัญหาส่วนตัว แต่ทุกวันยังสามารถทำงานดูแล ช่วยพ่อแม่ได้ปกติ มีอาการหงุดหงิดโวยวายบางครั้งแต่ไม่รุนแรง

ที่มา : https://www.sanook.com

แสดงความเห็น

comments