นครพนม – แรงงานลาวทะลักกลับประเทศ หลังโควิดกระหน่ำถูกเลิกจ้าง ตม.นครพนมเผยยึดหลักรัฐศาสตร์ยกเว้นโทษผิด จนท.ผวาเซฟตี้เข้มหวั่นสัมผัสผู้มีเชื้อ
ล่าสุด วันที่ 14 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ด่านพรมแดนไทย-ลาว สะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) ตรวจสอบว่ามีคนต่างด้าวสัญชาติลาวเดินทางติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม(ตม.นครพนม) เพื่อเดินทางกลับประเทศตนเองหรือไม่ เนื่องจากมีประกาศจากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) แจ้งประชาชนของตนที่ทำงานอยู่ในราชอาณาจักรไทย ทั้งที่ถูกกฎหมายมีนายจ้างชาวไทยดำเนินการด้านเอกสารอย่างถูกต้อง และไม่ถูกกฎหมายที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ช่วงสถานการณ์โรคโควิดระบาด ทำให้สถานที่ทำงานหลายแห่งปิดกิจการลง ดังนั้นหากชาวลาวมีความประสงค์เดินทางกลับประเทศให้ไปแสดงตน ณ ด่านพรมแดนไทย-ลาว โดยปราศจากความผิด และต้องกักตัวที่ศูนย์โควิดของทางการลาว 14 วัน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ตม.นครพนม ได้เปิดเผยว่าหลังทางการประเทศลาวแจ้งประชาชนของตนทราบแล้ว ปรากฏว่ามีคนสัญชาติลาวมาแสดงตนขอกลับประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งประกาศดังกล่าวออกมาได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว ถัวเฉลี่ยวันละ 8 คน ส่วนใหญ่มีเอกสารพาสปอร์ตถูกต้อง และที่ไม่มีเอกสารเลยไม่มากนัก แต่เดิมคนต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารยืนยันตัวตนหรืออยู่เกินวีซ่าหากจะกลับประเทศ จะต้องถูกนำตัวขึ้นศาลพิพากษาปรับ ส่วนโทษจำคุกรอลงอาญา แต่เมื่อสถานการณ์โควิดระบาดทั้งสองประเทศจึงใช้หลักรัฐศาสตร์ เมื่อมาแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ ตม.ฯแล้ว ก็จะประสานไปยังฝั่งประเทศลาว ว่า มีผู้ประสงค์เดินทางกลับจำนวนเท่าไหร่ ทางนั้นก็จะจัดรถข้ามสะพานมารับตัวไป ด้านเจ้าหน้าที่ ตม.ฯ ก็ต้องเซฟตัวเองเลี่ยงการสัมผัสให้น้อยที่สุด เพราะไม่รู้ว่าเขามีเชื้อโควิดมาด้วยหรือไม่ อย่างกรณีเคสรถตู้ที่ประสบอุบัติเหตุเป็นต้น
ส่วนทางด้านคดีพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ยังไม่ได้สอบปากคำคนขับและผู้โดยสาร ต้องรอให้มีการตรวจหาเชื้อโควิดก่อน ข้อหาอาจจะไม่รุนแรงเพราะมีการยืดหยุ่นเพื่อให้คนต่างด้าวกลับประเทศ แต่ต้องกลับไปเปิดดูประกาศของทางจังหวัดนครพนมด้วยว่ามีคำสั่งเกี่ยวกับคนต่างด้าวช่วงสถานการณ์โควิดอย่างไร หากประกาศเดิมยังไม่ยกเลิกถือว่าขัดคำสั่งของจังหวัดฯ คนขับจะถูกดำเนินคดีในการเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าพื้นที่
ที่มา : https://www.77kaoded.com