นครพนม – สุดซาบซึ้ง ชาวนครพนมชื่นชมพระบารมี ภาพหายาก ในหลวง รัชกาลที่ ๙ เสด็จฯ ข้ามสะพานไม้ห้วยโท บ้านโพนงาม ต.หนองบ่อ อ.นาแก หนึ่งในโครงการพระราชดำริ นำความอุดมสมบูรณ์ อยู่ดีกินดี ให้ชีวิตใหม่แก่เกษตรกร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม นายประมวล จินตนา ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม พร้อมด้วย นายปรีชา สะอิ้งทอง ปลัดอาวุโสอำเภอนาแก นายวีระพงษ์ วงศ์ศรียา อายุ 52 ปี กำนันตำบลหนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม ร่วมกับผู้นำชุมชนท้องถิ่น ได้นำภาพประวัติศาสตร์สำคัญหาดูยากในอดีตเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ออกมาเผยแพร่ผ่านสื่อ
พร้อมนำลงพื้นที่ย้อนรอยเส้นทางเสด็จฯ ในหลวง รัชการที่ ๙ เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยได้ชื่นชมในภาพพระบารมีครั้งเมื่อพระองค์เคยเสด็จฯ มาทรงตรวจเยี่ยมพสกนิกรในพื้นที่บ้านโพนงาม ต.หนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2527
ภาพการเสด็จพระราชดำเนินมาทรงตรวจเยี่ยมพสกนิกรครั้งนี้ได้สร้างความซาบซึ้งให้แก่ชาว อ.นาแก จ.นครพนม เป็นอย่างมาก เนื่องจากพระองค์เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตลอดจนข้าราชบริพาร ซึ่งพระองค์ได้ทรงพระดำเนินข้ามสะพานไม้ลำเลียงเก่า ข้ามลำห้วยโท ในพื้นที่บ้านโพนงาม ต.หนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม สื่อถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีความห่วงใยพสกนิกรชาวไทยไม่ว่าจะอยู่พื้นที่ไหน ทั้งในถิ่นทุรกันดาร ห่างไกลแค่ไหน พระองค์ไม่ทรงเหน็ดเหนื่อย ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อความอยู่ดีกินดีของพสกนิกรชาวไทย
จนกระทั่งมาถึงวันนี้เวลาผ่านไปกว่า 30 ปี พื้นที่ดังกล่าวเกิดโครงการพระราชดำริ อ่างเก็บน้ำห้วยโท ห้วยยาง ขึ้นในพื้นที่บ้านโพนงาม ต.หนองบ่อ อ.นาแก ซึ่งเป็นที่รองรับเก็บกักน้ำจากเทือกเขาภูลังกา ให้เกษตรกรมีน้ำในการอุปโภคบริโภค รวมถึงใช้ในการเกษตร สร้างความอุดมสมบูรณ์ สร้างอาชีพ สร้างรายได้มาแต่อดีตถึงปัจจุบัน จากที่เคยมีปัญหาภัยแล้ง และน้ำท่วม เสมือนให้ชีวิตใหม่ชาวบ้าน ครอบคลุมพื้นที่การเกษตรกว่า 10,000 ไร่
ช่วงงานพระราชพิธีสำคัญถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ พสกนิกรในพื้นที่จึงต้องการเผยแพร่ภาพประวัติศาสตร์หายากให้พสกนิกรชาวไทยได้รับรู้ และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย แสดงออกถึงความจงรักภักดี
นายประมวล จินตนา ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบ่อ อ.นาแก เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่ ต.หนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม ถือเป็นอีกพื้นที่สำคัญที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่เคยเสด็จพระราชดำเนินมาทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ทรงตรวจเยี่ยมดูแลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพสกนิกร จากที่เคยเดือดร้อนขาดแคลนน้ำทำการเกษตร ไม่มีงานไม่มีอาชีพ
จนกระทั่งเกิดโครงการอ่างเก็บน้ำในพระราชดำริ ห้วยโท- ห้วยยางขึ้น เป็นการให้ชีวิตใหม่ชาวบ้านได้ทำการเกษตร เกิดความอุดมสมบูรณ์ โดยได้มีการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2532 ปัจจุบันกลายเป็นอ่างเก็บน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ ครอบคลุมพื้นที่การเกษตรกว่า 10,000 ไร่
ทั้งนี้ ในโอกาสใกล้วันสำคัญ ในช่วงพระราชพิธีสำคัญถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตนและตัวแทนชาวบ้านจึงได้นำภาพประวัติศาสตร์การเสด็จพระราชดำเนินของในหลวงรัชกาลที่ ๙ มาเผยแพร่ผ่านสื่อ พร้อมนำลงพื้นที่ ติดตามย้อนรอยเส้นทางเสด็จฯ เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่าฝ่าพระบาทขอบพระองค์จะก้าวเหยียบย่ำไปที่ไหน ด้วยพระบารมี พระปรีชาสามารถของพระองค์ นำมาสู่ความอยู่ดีกินดีของพสกนิกรชาวไทย
โดยเฉพาะภาพพระองค์ทรงพระดำเนินผ่านสะพานข้ามห้วย สื่อถึงพระองค์ทรงมีความห่วงใยพสกนิกรชาวไทย ทุ่มเทพระวรกาย ไปทรงตรวจเยี่ยม ซึ่งเป็นหนึ่งในภาพหายาก สร้างความซาบซึ้งแก่ชาว อ.นาแก จ.นครพนม รวมถึงพสกนิกรชาวไทยเป็นล้นพ้น ที่สำคัญขอเป็นตัวแทนชาวบ้านน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพระองค์ พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย
ด้าน นางลอน วงศ์ศรียา อายุ 55 ปี เกษตรกรชาวบ้านดงขวาง ต.หนองบ่อ อ.นาแก จ.นครพนม กล่าวว่า เมื่อมีคนพูดถึงห้วยโท ห้วยแคน ยอมรับว่าน้ำตาไหล สุดซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ ๙ จำได้ว่าในอดีตพื้นที่หมู่บ้านแถบนี้แห้งแล้ง ขาดแคลนน้ำ ชาวบ้านยากจน ไม่มีรายได้ ไม่มีข้าวกิน เพราะทำนาไม่ได้ ในช่วงปี 2527 จำได้ว่าในหลวงเสด็จฯ แต่ไม่มีโอกาสได้ไปเฝ้าฯ รับเสด็จ ได้แค่เพียงฟังคำบอกเล่าของ พ่อแม่ว่า พระองค์ท่านเสด็จฯ มาทรงเยี่ยมชาวบ้าน ทรงวางแผนพัฒนาสร้างอ่างเก็บน้ำในโครงการพระราชดำริ
จนกระทั่งปี 2532 ได้สร้างแล้วเสร็จ สิ่งที่สัมผัสได้คือ ชาวบ้านแถบนี้เสมือนได้ชีวิตใหม่ นำมาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ ทำไร่ทำนาได้ผลผลิตดี มีอาชีพทำการเกษตรได้ตลอดปี ไม่ต้องไปทำงานต่างถิ่น นึกย้อนไปหากไม่ใช่พระบารมี พระปรีชาสามารถของพระองค์ คงไม่มีวันนี้ ยิ่งได้เห็นภาพในหลวงทรงพระดำเนินข้ามสะพานไม้ ยิ่งซาบซึ้งน้ำตาไหล
สิ่งเดียวที่จะตอบแทนได้คือ การนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่พระองค์พระราชทานมาเป็นแนวทางในการเลี้ยงชีพ ถึงแม้จะไม่มีโอกาสได้ไปกราบพระบรมศพ แต่น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ อยากบอกว่ารักในหลวง อยากให้ในหลวงทรงสถิตอยู่กับชาวไทยไปตลอดกาล เกิดชาติหน้าชาติใดขอให้ได้เป็นคนไทย อยู่ใต้ร่มพระบารมีในหลวง รัชกาลที่ ๙ พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย
ที่มา : https://mgronline.com
