นครพนม-นอภ.ธาตุพนม ชวนน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ “ในหลวง” 62 ปีทรงเสด็จวัดธาตุพนมถึง 6 ครั้ง ชื่นชมต้นคูณที่ทรงปลูกในวัดธาตุพนม เผยชาวนครพนมสุดซาบซึ้งพระราชดำริโครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำที่ทำให้ชาวบ้าน-เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
วันนี้( 23 ต.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม บรรยากาศเตรียมพร้อมการประกอบพิธีวางวดอกไม้จันทน์ ในงานพระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 พบว่า ทั้งหน่วยงานภาครัฐเอกชน ต่างเร่งจัดเตรียมพื้นที่ ในการประกอบพิธี ถวายอาลัย น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิภลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙
เช่นเดียวกันกับวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ถือเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกที่มีความสำคัญ
นอกจากจะเป็นที่ตั้งขององค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุ กระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญเป็นอย่างมาก
เนื่องจาก ในหลวงรัชการที่ ๙ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินบำเพ็ญกุศล นมัสการองค์พระธาตุพนม รวมแล้วมากถึง 6 ครั้ง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ที่พสกนิกรชาว จ.นครพนม ได้มีโอกาสเฝ้ารับเสด็จ
ทั้งนี้ นายอติชาต อุณหเลขกะ นายอำเภอธาตุพนม จ.นครพนม พร้อมด้วย สุระธวิชญ์ ขันติญาราษฎร์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลน้ำก่ำ ในฐานะที่เคยเฝ้ารับเสด็จ รวมถึงข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ได้นำเยี่ยมชมหลักฐานการเสด็จพระราชดำเนิน ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิภลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ตามรอยเส้นทางเสด็จ
ทางวัดได้มีการเก็บหลักฐานพระบรมฉายาลักษณ์ ไว้หลายภาพ ถือเป็นเกียรติประวัติและความภาคภูมิใจสูงสุดของ พสกนิกรชาว จ.นครพนม ที่เคยเฝ้ารับเสด็จ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งหมด 6 ครั้ง
โดยครั้งแรก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิภลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2498 เพื่อบำเพ็ญกุศล และเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุพนม ท่ามกลางความปลาบปลื้มของพสกนิกร ที่มารอเฝ้ารับเสด็จ
ดังนั้นในโอกาสที่จะมีการประกอบพระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระบรมศพ ทางอำเภอธาตุพนม จึงได้เชิญชวนพสกนิร ทุกหมู่เหล่า ได้น้ำรำลึกถึงประวัติศาสตร์ ครบรอบ 62 ปี ครั้งเมื่อ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้เสด็จพระราชดำเนินครั้งแรก
นอกจากนี้ภายในวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ยังได้พบหลักฐานการเสด็จที่สำคัญ คือ มีต้นไม้ที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิภลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงปลูกไว้ ตั้งแต่ปี 2506 คือต้นราชพฤกษ์ หรือชาวบ้านเรียกว่า “ต้นคูณ” รวมอายุถึงปัจจุบัน 54 ปี ที่สร้างความร่มรื่นให้กับวัด ตลอดจนให้พสกนิกร ที่เดินทางมาเที่ยวทำบุญ ได้ชื่นชม รำลึกถึงประวัติศาสตร์ ที่ในหลวงรัชการที่ ๙ เคยเสด็จพระราชดำเนิน
ด้านนายอติชาต อุณหเลขกะ นายอำเภอธาตุพนม เปิดเผยว่า วัดพระธาตุพนมถือเป็นสถานที่สำคัญ ที่มีการจัดเตรียมสถานที่ จัดซุ้มดอกไม้จันทน์ ในงานพระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระบรมศพ เพื่อให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ร่วมพิธีถวายอาลัย น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย ณ ขณะนี้มีความพร้อมมากที่จะคอยดูแลบริการประชาชน นักท่องเที่ยว ทุกด้าน เพราะจุดนี้น่าจะเป็นจุดสำคัญที่จะมีประชาชน นักท่องเที่ยว มาร่วมพิธีจำนวนมาก เพราะต่างก็ถือโอกาสเดินทางมาทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลด้วย
“พระองค์ท่านได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มาวัดพระธาตุพนม รวมถึง 6 ครั้ง ถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุด เป็นประวัติศาสตร์ ที่สำคัญของพสกนิกร ชาวนครพนม รวมถึงพื้นที่ภาคอีสาน ที่เคยได้เฝ้ารับเสด็จอย่างใกล้ชิด”นายอติชาติ กล่าวและว่า
สำหรับข้อมูลหลักฐานการเสด็จ พบว่ามี 6 ครั้ง ประกอบด้วย ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2498 ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2506 ตรงกับวันวิสาขบูชา
โดยได้ประกอบพิธีเวียนเทียนรอบองค์ระธาตุพนม พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ รวมถึงได้ปลูกต้นราชพฤกษ์ หรือต้นคูณไว้ภายในวัด ที่ยังปรากฏหลักฐาน มาถึงปัจจุบัน ให้พสกนิกรได้ชื่นชม ต้นไม้ทรงปลูก
ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2518 เสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในหลวงรัชการที่ ๑0 ทรงเสด็จสรงพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอก ของพระพุทธเจ้า และทอดพระเนตรซากปรักหักพังพระธาตุพนม หลังพระธาตุพนมล้ม เมื่อ 11 สิงหาคม 2518
ส่วนครั้งที่ 4 – 5 เสด็จเมื่อวันที่ 25 – 26ธันวาคม 2518 ทรงเสด็จประกอบพิธี สมโภชพระอุรังคธาตุ และครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2522 เสด็จพระราชดำเนิน ประกอบพิธี บรรจุพระอุรังคธาตุ ภายในองค์พระธาตุพนม
โครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำฟื้นชีวิตพสกนิกร
นายอติชาติกล่าวอีกว่าที่สำคัญพื้นที่ อ.ธาตุพนม พระองค์ท่านยังได้พระราชทานโครงการ โครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำตอนล่าง ตามแนวทางพระราชดำริ ถือเป็นโครงการสำคัญ ที่เกิดจากแนวทางพระราชดำริ ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ เกิดจากภาพฝีพระหัตถ์ พร้อมมีพระราชดำริให้กรมชลประทาน ก่อสร้างตั้งแต่ปี 2535 เพื่อควบคุมลำน้ำก่ำที่ไหลระบายมาจากหนองหาร จ.สกลนคร ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง
ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และน้ำท่วม ทำให้พื้นที่การเกษตรของเกษตรกรได้รับประโยชน์กว่า 60,000 ไร่ ส่วนในฤดูแล้งที่ขาดแคลนน้ำก็สามารถผันน้ำโขงกลับมาใช้ในระบบชลประทานได้
พร้อมได้พระราชทานนาม ประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิต (ทอ-ระ-นิด-นะ-รึ-มิด) คือ ประตูระบายน้ำที่ก่อสร้างขึ้นตามพระราชดำริของในหลวง 1 ใน 4 แห่ง ทั่วประเทศ ทำให้พสกนิกร ในพื้นที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม รวมถึง สกลนคร ได้รับประโยชน์ มีอาชีพ มีรายได้ อยู่ดีกินดี ถือเป็นโครงการสำคัญที่เกิดจากพระปรีชาสามารถของในหลวงรัชการที่ 9 โดยพสกนิกรต่างน้ำสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ที่มา : https://mgronline.com/
