ผลชันสูตรศพ “น้องชมพู่” ไม่พบถูกทำร้ายหรือการล่วงละเมิดทางเพศ ด้าน ผบช.ภ. 4 ระดมทีมสืบสวนคลี่คลายคดี เบื้องต้นจากพยานหลักฐานเชื่อมีคนชำนาญทางพาเข้าป่าไม่ได้พลัดหลงเอง โดยขอเวลาตำรวจทำงานก่อน
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ลงพื้นที่ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี เกี่ยวกับกรณีพบศพ ด.ญ.อรวรรณ วงค์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ ที่หายปริศนา ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 รวมเป็นเวลา 4 วันก่อนพบศพในสภาพเปลือยกาย กลางป่าเขาภูพานน้อย ห่างจากบ้านพักผู้ตายประมาณ 2 กิโลเมตร ในเขตพื้นที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร โดยมี พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศิริ ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร พร้อมทีมสอบสวน สืบสวน ร่วมประชุมรายงานคืบหน้าของคดี
วันนี้มีการระดมทีมตำรวจพิสูจน์หลักฐาน รวมถึงชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ลงพื้นที่เก็บหลักฐานที่จุดเกิดเหตุเพิ่มเติม รวมถึงสอบพยานแวดล้อมในครอบครัว ญาติใกล้ชิด รวมถึงติดตามสอบสวนกลุ่มผู้ต้องสงสัยในพื้นที่หมู่บ้าน ที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หลังตำรวจมีเบาะแสบางส่วนพบว่า มีกลุ่มบุคคลต้องสงสัย 2 ราย ที่มีประวัติเกี่ยวข้องยาเสพติด แต่ยังไม่พบตัว และหายไปจากหมู่บ้าน กำลังเร่งติดตามตัวมาสอบสวน สำหรับปมเกี่ยวกับการฆาตกรรม ทางญาติ ยืนยันมีปัญหาขัดแย้งในครอบครัว และคนในหมู่บ้าน ที่จะเป็นชวนเหตุของการทำร้ายน้องชมพู่ แต่ยังรอผลการชันสูตรศพเพิ่มเติมโดยละเอียด อยู่ระหว่างการส่งศพน้องชมพู่ไปชันสูตรที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี และจะมีผลการตรวจยืนยันออกมาในช่วงเย็นวันนี้ เพื่อสรุปเกี่ยวกับปมการข่มขืน ว่ามีการข่มขืนหรือไม่ หรือเป็นการทำร้ายร่างกายเพียงอย่างเดียว เพื่อประกอบการสอบสวน ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี และตำรวจมุ่งคนในพื้นที่เป็นหลัก เพราะจากการตรวจสอบหลักฐานเบื้องต้น มั่นใจว่าผู้ก่อเหตุชำนาญพื้นที่ และรู้ความเคลื่อนไหวเหยื่อ
พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า หลังเกิดคดี ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนในพื้นที่ รวมถึงตำรวจภูธรภาค 444 ลงพื้นที่ เก็บหลักฐาน สืบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมทุกจุด เพื่อประกอบการดำเนินคดี ติดตามคนร้าย สันนิษฐานเบื้องต้น ผู้ตายไม่ได้พลัดหลงป่าหรือเข้าไปในป่าเพียงคนเดียว มั่นใจว่าจะมีคนนำพาตัวไปที่จุดเกิดเหตุ แต่ยังต้องรอผลการตรวจชันสูตรที่ชัดเจน เนื่องจากชันสูตร เก็บหลักฐานเบื้องต้น ยังไม่พบหลักฐานยืนยันเกี่ยวกับการทำร้าย หรือการข่มขืน อย่างไรก็ตามทางตำรวจกำลังลงพื้นที่คลี่คลายคดี เมื่อผลชันสูตรยืนยันออกมาเชื่อว่าจะเป็นแนวทางสำคัญในการติดตามจับกุมคนร้าย ขอเวลาตำรวจทำงาน จะเร่งรัดให้เร็วที่สุด
ด้าน นางสมควร หลาบโพธิ์ อายุ 64 ปี ยายของผู้ตาย ออกมายืนยันว่า ในครอบครัวผู้ตาย ไม่มีปัญหากับคนในหมู่บ้าน ไม่เคยขัดแย้งกับใคร เพราะที่ผ่านมา ทำอาชีพการเกษตร อยู่ตามประสาชาวบ้าน และในหมู่บ้านไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้ ซึ่งตนไม่เชื่อว่า จะมีปัญหากับครอบครัว เป็นต้นเหตุมาทำร้ายหลาน แต่เชื่อว่าเป็นกลุ่มคนที่ไม่หวังดีกับหลาน และคิดกระทำไม่ดีมากกกว่า อยากให้ตำรวจติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด รับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ชาวบ้านยังหวาดผวา อยากให้จับได้เร็วที่สุด
ล่าสุด นายณรินทร์ หลาบโพธิ์ อายุ 35 ปี น้าชายและญาติของน้องชมพู่ เผยว่า ผลจากการผ่าศพพิสูจน์โดยแผนกนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี สภาพศพไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย หรือการล่วงละเมิดทางเพศ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต ต้องรอผลอย่างเป็นทางการจากทางห้องแล็บนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้งหนึ่งสำหรับศพของน้องชมพู่ ญาติได้รับกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดในตำบลอกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ในเย็นวันเดียวกัน โดยระหว่างจะนำศพขึ้นรถนายณรินทร์โทรศัพท์ไปบอกแม่น้องชมพู่ ให้เรียกน้องกลับบ้านผ่านทางโทรศัพท์ด้วย.
ที่มา : https://www.thairath.co.th
