ผู้ว่าฯ นครพนมสุดทน! พระวัดคำสว่างถูกคุกคาม กำชับทหาร-ตำรวจจัดการแก๊งตัดไม้พะยูงในวัด

0
1,048 views

นครพนม/มุกดาหาร – ผู้ว่าฯ นครพนม นำกำลังทหาร-ตำรวจบุกป่าพะยูงวัดป่าคำสว่าง หลังสมภารวัดร้องถูกแก๊งมอดไม้ลักลอบตัดไม้หวงห้ามต่อเนื่อง ล่าสุดถูกยิงปืนขู่ ด้านผู้ว่าฯ นครพนมสั่งการกำชับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ กำนันและผู้ใหญ่บ้าน เข้มงวดตรวจตรา ให้จัดการกลุ่มคนที่ลอบตัดอย่างเฉียบขาด ขณะที่ตำรวจทางหลวงมุกดาหารยึดไม้พะยูง 14 ท่อน พร้อมรถยนต์ 1 คัน มูลค่ากว่า 500,000 บาท

วันนี้ (21 มี.ค. 61) ที่วัดป่าคำสว่าง บ้านคำสว่าง ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม หลวงปู่กิตติพงศ์ กิตติโสภณ วัย 76 ปี เจ้าอาวาสวัดป่าคำสว่าง นำนายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม, พ.อ.ทฤษฎี คงชนะ รอง ผบ.มทบ.210, พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ จันทร์ศรี ผกก.ศรีสงคราม และนายกิตติพันธ์ จันทร์นนท์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นพ.1 (พนอม) พร้อมด้วยผู้นำชุมชนเข้าตรวจสอบพื้นที่ปลูกไม้พะยูงและไม้ประดู่ ภายในพื้นที่ 120 ไร่ในวัดป่าคำสว่าง หลังถูกแก๊งมอดไม้ยิงปืนข่มขู่ คุกคามให้หวาดกลัว หวังให้พระหนีออกจากวัด เพื่อจะได้ลอบตัดไม้สะดวก

หลวงปู่กิตติพงศ์ กิตติโสภณ เจ้าอาวาสวัดป่าคำสว่าง กล่าวร้องเรียนว่าพื้นที่ภายในวัด 120 ไร่ มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ และยังเป็นป่าชุมชนเพื่อการอนุรักษ์ ได้รับพระราชทานเข้าร่วมโครงการอนุรักษ์ป่าตามแนวพระราชดำริ ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อปี พ.ศ. 2560 พื้นที่ของวัดจะมีต้นไม้หวงห้าม เช่น ไม้พะยูง ไม้ตะเคียน ไม้ประดู่ จำนวนกว่า 1,000 ต้น บางต้นมีอายุเก่าแก่ 200-300 ปี โดยเฉพาะไม้พะยูงมีมากกว่า 100 ต้น ถูกคนร้ายลอบตัดไปหลายต้น หลังร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมานานหลายปีเรื่องกลับเงียบหาย ตนเคยไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ศรีสงคราม ทำหนังสือร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครองหลายครั้ง หลังจากเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ จากนั้นแก๊งมอดไม้ก็ลอบเข้ามาตัดอีก โดยคนร้ายจะอาศัยช่วงกลางคืนปลอดคน มีแค่พระจำวัดอยู่รูปเดียว เข้ามาลอบตัดโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย หากปล่อยให้คนร้ายตัดโดยยังไม่ได้ตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษแม้แต่คนเดียว ไม้ที่ชาวบ้านหวงแหนและร่วมกันอนุรักษ์ โดยเฉพาะต้นประดู่อายุ 300 ปี ขนาด 2-3 คนโอบ อาจเหลือแต่ตอให้พบเห็นก็เป็นได้

นอกจากนี้ แก๊งมอดไม้ยังฮึกเหิมถึงขนาดยิงปืนขู่ที่หน้าห้องน้ำวัด 1 นัด ช่วง 21.00 น.เมื่อต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา หลังออกข่าวได้แค่วันเดียว เมื่อวันที่ 3 มี.ค. คนร้ายมายิงปืนขู่หน้าวัดอีกครั้ง นอกจากนี้ยังคุกคามอาตมาด้วยการส่งลูกน้องมางัดกุฏิขโมยสิ่งของในยามวิกาลหลายครั้ง หวังกลั่นแกล้งให้เกรงกลัวหนีออกจากวัด แม้จะมีอันตรายถึงชีวิตก็ไม่เกรงกลัวอิทธิพล จะขอปกป้องป่าผืนนี้และขอสละชีวิต พร้อมต่อสู้กับขบวนการแก๊งมอดไม้จนถึงที่สุด

ด้านนายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ได้เดินทางมาดูพื้นที่หลังได้รับร้องเรียนว่าเจ้าอาวาสของวัดแห่งนี้ถูกคนร้ายข่มขู่ ทราบว่าพื้นที่ของวัดมีพื้นที่ 130 ไร่ หากชุมชนรอบวัดมีกิจกรรมสัมพันธ์กับวัดเพื่อสร้างกำแพงใจเพื่อปกป้องดูแลรักษาพื้นป่าแห่งนี้ ช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่องไม่ให้คนบางกลุ่มเข้ามาลอบตัดไม้ที่ยังอุดมสมบูรณ์ จึงได้สั่งการกำชับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ กำนันและผู้ใหญ่บ้าน เข้มงวดตรวจตรา เพื่อจะได้ดำเนินการต่อกลุ่มคนที่มาลอบตัดอย่างเฉียบขาดต่อไป

วันเดียวกันนี้ที่จังหวัดมุกดาหาร พ.ต.อ.จตุพล เร่งถนอนทรัพย์ ผกก.6 บก.ทล.ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีการลักลอบขนไม้พะยูงผ่านเส้นทางถนนเลี่ยงเมืองมุกดาหาร-โคกสุวรรณ เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร จึงสั่งการให้ ร.ต.ท.เผ่าพงษ์ แสงยะรักษ์ รอง สว.ส.ทล.5 กก.6 บก.ทล. หัวหน้าชุด ประสาน พ.ต.อ.ไชยพร พงษ์ศักดิ์ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจออกลาดตระเวนบริเวณที่ได้รับแจ้ง

กระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัยจอดอยู่บริเวณถนนเลี่ยงเมือง กิโลเมตรที่ 6-7 ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมือง มุกดาหาร เจ้าหน้าที่ได้ดักซุ่มดูสักพักและเข้าตรวจสอบรถยนต์กระบะบรรทุกแบบตู้ทึบยี่ห้อโตโยต้า แบบแค็บ สีขาว หมายเลขทะเบียน บล 7082 ร้อยเอ็ด ไม่พบคนขับรถยนต์คันดังกล่าว พบแต่กุญแจเสียบทิ้งไว้ ภายในรถพบแผ่นป้ายทะเบียน หมายเลข บฉ 1639 อำนาจเจริญ จำนวน 2 แผ่น วางอยู่ใต้เบาะนั่งด้านคนขับ ตรวจสอบตู้ท้ายกระบะพบไม้พะยูง 14 ท่อนขนาดใหญ่ มูลค่ากว่า 500,000 บาท ตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงไม่พบผู้ใดมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดไม้พะยูงทั้งหมด พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 มาตรา 69 ฐานมีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยดวงตราค่าภาคหลวง หรือตรารัฐบาลขาย โดยไม่ได้รับอนุญาต และมาตรา 70 ฐานซ่อนเร้น จำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งเป็นไม้ที่ตนรู้อยู่แล้วว่าได้มาโดยการกระทำความผิด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำไม้พะยูงพร้อมรถยนต์กระบะของกลาง ส่ง พ.ต.ท.กวี เสนนอก พนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ที่มา : https://mgronline.com

แสดงความเห็น

comments