ผู้ว่าฯ นครพนม สั่งล้างบางมาเฟีย หลังนำแรงงานเถื่อนผ่านจุดผ่อนปรนไทย-ลาว เร่งขยายผลขบวนการค้ามนุษย์

0
802 views

นครพนม – วันที่ 4 สิงหาคม 2562  ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับกรณี นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นคพรนม  ได้ประสานหน่วยงานความมั่นคง  ร่วมบูรณาการเพิ่ม มาตรการเข้มงวด ปราบปราม จับกุม กวาดล้างระบบกลุ่มมาเฟีย ที่แสวงผลประโยชน์ จากการบริหารจัดการ จุดผ่อนปรนตลาดนัดชายแดนไทย-ลาว อ.ธาตุพนม  รวมถึงเอื้อประโยชน์ ฉวยโอกาสในการนำเข้าแรงงานเถื่อน  โดยใช้ช่องว่างของจุดผ่อนปรนชายแดน  นำพาแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำส่งต่อไปยังขบวนการค้ามนุษย์  กระทั่งมีปัญหาการร้องเรียน และขอให้ตรวจสอบพบว่ามีการปล่อยปละละเลย รวมถึงมีกลุ่มมาเฟีย ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐแสวงประโยชน์ เป็นที่มาของ อธิบดีกรมการปกครอง มีคำสั่งย้ายด่วน นายชัยวัฒน์ ชัยเวทย์พิสิฐ อายุ นายอำเภอธาตุพนม ให้ไปช่วยราชการที่กรมการปกครอง โดยให้มีผล ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 หลังจากเพิ่งย้ายจากนายอำเภอนิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร มาดำรงตำแหน่งเดิม เมื่อเดือนตุลาคม 2561

นอกจากนี้ ทางด้าน ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม  ยังได้มีคำสั่งให้ ร.ต.อ.เพชรวิชัย จันทะคาม อายุ 56 ปี ตำแหน่ง รอง สว.สส. สภ.หลักศิลา อ.ธาตุพนม และยังทำงานปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการศูนย์ปฏิบัติการยาเสพติด อ.ธาตุพนม  ซึ่งมีความสนิทสนม เป็นคนใกล้ชิดติดตามนายอำเภอ  เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการดูแล เรียกรับผลประโยชน์ เก็บค้าธรรมเนียมจากประชาชนชาวลาว ในการเดินทางเข้า-ออก  ขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ข้อเท็จจริง ตามระเบียบขั้นตอน รอสรุปผลการตรวจสอบ ว่าจะมีความผิดทางวินัย หรือทางอาญาหรือไม่

รวมถึงการประสานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.นครพนม) พร้อมหน่วยงานความมั่นคง เข้าไปดูแลจัดระเบียบ  โดยโล๊ะแบบเดิมที่ไร้ประสิทธิภาพในการตรวจสอบ จึงกลายเป็นช่องว่างให้ผู้แสวงหาผลประโยชน์ ลักลอบทำผิดกฎหมาย หันมาใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ด้วยการทำบัตรผ่านแดนประจำตัวชาวลาว ติดบาร์โค้ด เพื่อแสกนตรวจสอบ จำนวนชาวลาวที่เดินทางเข้า-ออก ในการข้ามแม่น้ำโขงมาจับจ่ายซื้อของหรือนำสินค้ามาวางจำหน่ายทุกราย  และให้มีการนำเข้า-ส่งออกสินค้า รวมถึงคนที่เดินทาง ณ จุดเดียว เพื่อสะดวกในการกำกับดูแล ทุกวันในช่วงเปิดตลาด คือวันจันทน์ กับ วันพฤหัสบดี เวลา 08.00 – 15.00 น.

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ปมปัญหากรณีเด้งนายอำเภอธาตุพนม มีสาเหตุมาจาก เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา   ทางเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลเบาะแส จากชาวบ้าน ว่า มีแรงงานชาวลาว เป็นชาย 3 ราย หญิง 4 ราย รวม 7 ราย  อายุระหว่าง 13 – 17 ปี  ถูกลักลอบนำพาผ่านเข้ามาทางจุดผ่อนปรนตลาดชายแดนไทย-ลาว อ.ธาตุพนม  โดยใช้ช่องว่างปัญหาการตรวจสอบการเข้า-ออก ที่มีความบกพร่อง โดยขบวนการนี้จะนำแรงงานลาวเข้ามา ก่อนที่จะพาไปพักไว้ที่บ้านหลังหนึ่ง ในเขต ต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม เพื่อรอการลำเลียงขนส่งต่อ ไปค้าแรงงาน นำเข้าสู่ขบวนการค้ามนุษย์ แต่เกิดปัญหาในการรอการส่งต่อ ทำให้เด็กทั้ง 7 คน เกิดความหวาดกลัว หนีออกมาขอความช่วยเหลือชาวบ้าน ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ ขยายผลพบเชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์ และมีเจ้าหน้าที่รัฐบางราย ร่วมกับกลุ่มมาเฟีย คอยอำนวยความสะดวกในการข้ามแดน โดยใช้จุดผ่อนปรนเป็นเส้นทางผ่าน นอกจากนี้ยังพบหลักฐานบัตรค่าธรรมเนียมผ่านแดน ที่กลุ่มมาเฟีย จัดทำขึ้นมาเก็บผลประโยชน์รายละ 20 บาท เป็นค่าธรรมเนียมเข้าฝั่งไทย โดยไม่ได้นำเข้าระบบราชการ ซึ่งพบว่ามีรายได้ตกวันละ 20,000 – 30,000 บาท ซึ่งเรื่องนี้ นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม ได้สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งสอบสวน ขยายผล เอาผิดให้ถึงที่สุด

ด้าน นายอภิชาต วงษ์กาฬสินธุ์ จัดหางานจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า  หลังรับนโยบายจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม จึงประสานทุกหน่วยงาน ดำเนินการปราบปรามเอาผิดขบวนการค้ามนุษย์ ค้าแรงงานเถื่อน  โดยฉวยโอกาสเส้นทางจุดผ่อนปรนชายแดน อ.ธาตุพนม เป็นเส้นทางผ่าน  และยอมรับว่าขบวนการค้ามนุษย์ ค้าแรงงานเถื่อนในพื้นที่ อ.ธาตุพนม มีมานาน แต่ก็มีการตรวจสอบปราบปราม จับกุมอย่างต่อเนื่อง แต่ขบวนการค้ามนุษย์มีความพยายามที่หาช่องทางกระทำผิดมาตลอด  ซึ่งครั้งนี้ทางจัดหางานจังหวัด ซึ่งได้รับมอบหมายจากกระทรวงแรงงาน รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เร่งตรวจสอบขยายผลหาทางเอาผิดขบวนการค้ามนุษย์ขั้นเด็ดขาด

เบื้องต้นจากการสอบสวนขยายผล แรงงานลาวทั้ง 7 ราย มีการลักลอบเข้าทางตลาดจุดผ่อนปรนชายแดน อ.ธาตุพนม และไปพักที่บ้านหลังหนึ่ง รอการส่งต่อ แต่เด็กเกิดความกลัว เนื่องจากรอนาน และมีการรับรู้ข้อมูล จากการพุดคุยของคนนำพา ว่าจะนำไปส่งแหล่งค้าประเวณี จึงหวาดกลัวพากันหลบหนีออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน

และหลังการสอบสวนของเจ้าหน้าเครือข่ายสหวิชาชีพ และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง   พบหลักฐานข้อมูล ว่า มีการเชื่อมโยงไปถึงขบวนการค้ามนุษย์ ค้าแรงงานเถื่อน ทั้ง การติดต่อทางโทรศัพท์ เส้นทางการเงิน  รวมถึงหลักฐานเชื่อมโยงกับคนนำพา  ล่าสุดได้มีการ รวบรวมหลักฐาน เข้าไปร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิด กลุ่มขบวนการนำพากับ พนักงานสอบสวน สภ.หลักศิลา อ.ธาตุพนม แล้ว  โดยมีหลักฐานเชื่อมโยงเอาผิดเบื้องต้น 4 ราย เป็นชาวลาว 2 ราย และเป็นชาวไทย 2 ราย ซึ่งเป็นผู้นำพาแรงงานเข้ามาพักที่บ้านดังกล่าว  ในจำนวนนั้นมีเจ้าของบ้านที่นำมาพักพิงด้วย ส่วนข้อหาความผิด จะมีการกล่าวโทษตามความผิด 3 ข้อหาหนัก คือ 1. ความผิดฐานค้ามนุษย์ 2. ความผิดฐานนำพาแรงงานต่างด้าว เข้ามาในราชอาณาจักร โดยผิดกฎหมาย และ 3. ฐานความผิดให้ที่พักพิง และกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งได้รวบรวมหลักฐาน ส่งพนักงานสอบสวน รอสรุปหลักฐาน เสนอศาลจังหวัดนครพนม ออกหมายจับผู้กระทำผิดต่อไป  สำหรับ แรงงานลาว ทั้ง 7 คน  ขณะนี้ยังอยู่ในความดูแล ของหน่วยงานในกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รอการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม ยืนยันหากหลักฐานเชื่อมโยงถึงใครจะดำเนินคดีทุกราย

ที่มา : https://www.77kaoded.com

แสดงความเห็น

comments