พ่อติดยาบ้า ขืนใจลูกเลี้ยงหลายปี แม่แท้ๆ รู้เห็นเป็นใจ จนเด็กท้องคลอดลูก ญาติแจ้ง ตร.จับ

0
581 views

พ่อทาสยาบ้า ข่มขืนลูกเลี้ยงวัย 8 ขวบ ก่อเหตุกว่า 10 ปีไร้คนช่วยเหลือ แม่แท้ๆ รู้เห็นเป็นใจ เพราะเสพยาบ้าเหมือนกัน สุดท้ายเด็กอายุ 16 ตั้งครรภ์จนคลอดลูกอายุ 2 เดือน ญาติแจ้ง ตร.มาจับ ยุติธรรมรุดช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 30 กันยายน น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยว่าที่ร้อยตรี พิเชษฐ์ แก้วจินดา ยุติธรรมจังหวัดนครพนม น.ส.สุพรรณนี ศรีสุพรรณ พนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พ.ต.ท.ธราพงษ์ ภูมิถินเหว่อ สารวัตรสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ว่าที่ร้อยตรี ศิริพงศ์ ไชยพันธุ์ นายก อบต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ นางศิวาพร เสนจันทร์ฒิชัยไชย ผู้ใหญ่บ้านขามเตี้ยใหญ่ ต.นาขมิ้น พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชนหมู่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสอบให้การช่วยเหลือ น้องตุ้ม อายุ 16 ปี เหยื่อพ่อเลี้ยงหื่น ถูกบังคับข่มขืนใจมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ทนทุกข์ทรมานจิตใจหลายปี เนื่องจากมีแม่แท้ๆ เป็นคนรู้เห็นเป็นใจปกป้องช่วยเหลือให้เป็นเหยื่อกามให้พ่อเลี้ยงขืนใจ เนื่องจากทั้ง 2 สามีภรรยาตกเป็นทาสยาบ้า

จนกระทั่งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาความแตก เนื่องจากน้องตุ้ม ปัจจุบันอายุ 16 ปี ตั้งครรภ์ พร้อมคลอดลูกสาวออกมา ปัจจุบันมีอายุได้ประมาณ 2 เดือน ญาติๆ สุดทน จึงประสานตำรวจและหน่วยงานยุติธรรม ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ภายหลังเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธราพงษ์ได้ลงพื้นที่นำทีมสอบสวนดำเนินคดีเอาผิดกับพ่อเลี้ยงคือ นายอินทร์ปอน กิติผง อายุ 51 ปี ชาวบ้านขามเตี้ยใหญ่ ต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ในข้อหาหนัก รวม 3 ข้อหา ทั้งฐานความผิดเสพยาเสพติดประเภท 1 ยาบ้า รวมถึงข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยา หรือสามีของตน โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย และทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กยินยอมหรือไม่ก็ตาม

 นอกจากนี้ ยังดำเนินคดีกับแม่คือ นางสุพันนี พันสิติ อายุ 47 ปี ในข้อหาเสพยาบ้า และมียาเสพติดประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครังเพื่อจำหน่าย โดย 2 สามีภรรยาอยู่ระหว่างส่งฝากขังที่เรือนจำกลางนครพนม รอการพิจารณาตัดสินของศาลจังหวัดนครพนม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ณัฐธ์ภัสส์นำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ช่วยเหลือด้านความเป็นอยู่ รวมถึงช่วยเหลือการดำเนินคดีทางกฎหมาย ปัจจุบันน้องตุ้มอาศัยอยู่ในบ้านไม้ยกสูง สภาพเก่าทรุดโทรม ฝาผนังทำด้วยสังกะสี รวมถึงไม้เก่า ห้องน้ำยังไม่มิดชิด ทำขึ้นพอได้ใช้งาน ไม่มีไฟฟ้าใช้ รวมถึงไม่มีระบบประปา ต้องใช้น้ำในลำห้วยใกล้บ้าน อีกทั้งต้องดูแลลูกลำพัง ต้องเอาน้ำเปล่าให้ลูกกินประทังชีวิต มีเพียงญาติพี่น้อง และชาวบ้านที่คอยดูแลช่วยเหลือตามสภาพ

หลังจากพ่อเลี้ยงกับแม่ติดคุก น้องตุ้มต้องหยุดการศึกษาต่อ เพราะต้องดูแลลูก และมีปัญหาด้านสภาพจิตใจ เบื้องต้นหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงผู้นำชุมชนท้องถิ่นได้ตั้งกองทุนเปิดบัญชีรับบริจาคช่วยเหลือกับผู้ใจบุญ

สามารถสอบถามรายละเอียดและบริจาคช่วยเหลือได้ที่ บัญชีธนาคารออมสิน สาขาโพนสวรรค์ เลขที่บัญชี 020-3995-3237-1 ชื่อบัญชีบริจาค กองทุนเพื่อช่วยเหลือน้องตุ้ม ตำบลนาขมิ้น สอบถามโทร 06-3531-9726 นางศิวาพร เสนจันทร์ฒิชัยไชย ผู้ใหญ่บ้านขามเตี้ยใหญ่

น.ส.ณัฐธ์ภัสส์เปิดเผยว่า หลังรับทราบข่าวจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงผู้นำชุมชนท้องถิ่น หน่วยงานตำรวจ จึงประสานลงพื้นที่ช่วยเหลือครอบครัว น้องที่ตกเป็นเหยื่อกามของพ่อเลี้ยงมานานนับ 10 ปี โดยมีแม่แท้ๆ เป็นคนปกป้อง รู้เห็นเป็นใจบังคับให้ลูกสาวถูกขืนใจ จนกระทั้งตั้งครรภ์คลอดลูกออกมา และยังบังคับให้เสพยาบ้า โชคดีเด็กไม่ยอม ญาติพี่น้อง รวมถึงผู้นำชุมชนจึงได้ประสานตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย และถูกจับกุมดำเนินคดีทั้งพ่อเลี้ยงและแม่แท้ๆ เพราะมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

น.ส.ณัฐธ์ภัสส์กล่าวว่า จากการสอบถามทราบว่าแต่เดิมเด็กที่ถูกกระทำมีพี่น้องทั้งหมด 3 คน เป็นหญิงทั้งหมด ผู้เสียหายเป็นคนกลาง ส่วนคนโตไปทำงานมีครอบครัว เหลือผู้เสียหายและน้องคนสุดท้องไปอยู่กับแม่ และพ่อเลี้ยงที่บ้านอีกหลัง ไม่มีใครดูแล กระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น จนญาติพี่น้องรู้พฤติกรรมของพ่อเลี้ยง และลูกสาวตั้งครรภ์ได้ประมาณ 5-6 เดือน จึงประสานขอรับการช่วยเหลือจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง จนคลอดบุตร และนำไปดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัว พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้การช่วยเหลือ รวมถึงหน่วยงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ยุติธรรมจังหวัด ดูแลทุกด้าน และมอบเงินเยียวยาเบื้องต้น

น.ส.ณัฐธ์ภัสส์กล่าวว่า สำคัญที่สุดคือที่พักอาศัย สภาพความเป็นอยู่ จะต้องได้รับความร่วมแรงร่วมใจทั้งภาครัฐและเอกชน จึงประสานตั้งกองทุนรับบริจาคช่วยเหลือเพื่อนำเงินมาปรับปรุงบ้านพักอาศัย ดูแลเด็กทารกที่เกิดได้ประมาณ 2 เดือน ต้องมีค่าใช้จ่าย รวมถึงอนาคตของน้องสาวคนเล็กที่กำลังศึกษาอยู่

 น.ส.ณัฐธ์ภัสส์กล่าวด้วยว่า ปัญหาลักษณะนี้ถือว่าสังคมต้องช่วยเหลือกัน และสร้างภูมิคุ้มกันให้สังคม โดยมีหน่วยงานยุติธรรมคอยดูแลช่วยเหลือ สามารถติดต่อขอรับการช่วยเหลือได้ทุกจังหวัด ส่วนกรณีดังกล่าวจะได้ประสานตำรวจและหน่วยงานเกี่ยวข้องดูแลเรื่องการดำเนินคดีผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด และดูแลคุณภาพชีวิตน้องไม่ให้ได้รับผลกระทบต่อสภาพจิตใจในอนาคต
ที่มา : https://www.matichon.co.th

แสดงความเห็น

comments