พ่อเลี้ยงสุดทน ฉุนปมฮุบที่ กระหน่ำฟัน “ลูกเลี้ยง-เมีย” เหวอะดับสยอง

0
493 views

พ่อเลี้ยงสุดทน ลูกเลี้ยงฮุบที่ดิน เผยถูกถากถางเสียดสี ไล่ส่งกลับบ้านเกิด ฉุนสุดขีด คว้ามีดตะขอฟันร่างไม่ยั้ง คอหวิดขาด-แผลเหวอะเต็มตัว เมียโดดห้าม ถูกฟันยับมือขาด ดับคู่จมกองเลือด ส่วนหลานชายวัย 16 เห็นเหตุการณ์ ตกใจหนีทัน สุดท้ายขับซาเล้งพร้อมมีดมรณะ เข้ามอบตัวตำรวจ น้อมรับกรรมในคุก ยอมรับสารภาพหมดสิ้น

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 2 เม.ย.63 ร.ต.อ.สัตยา คำวงษา รองสารวัตรสอบสวน สภ.นาหว้า จ.นครพนม รับแจ้งจาก นายรำภัย คำหอม อายุ 51 สารวัตรกำนัน หมู่ที่ 6 บ้านนาคูณน้อย ต.นาคูณใหญ่ อ.นาหว้า จ.นครพนม ว่า มีเหตุทำร้ายร่างกายกัน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่บ้านเลขที่ 127 หมู่ 6 ต.นาคูณใหญ่ อ.นาหว้า จ.นครพนม จึงรายงานไปยัง พ.ต.อ.กิตติพงษ์ พันธ์ศรี ผกก.สภ.นาหว้า พร้อมประสานงานร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลอำเภอนาหว้า และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบ

เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าบ้านดังกล่าว พบศพผู้เสียชีวิต 2 ศพ อยู่ในสภาพถูกฟันด้วยของมีคมจมกองเลือด รายแรกทราบชื่อ นางจิต บับพาน อายุ 68 ปี สภาพศพนอนคว่ำหน้า ถูกฟันด้วยของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์ที่บริเวณลำคอและร่างกายหลายจุด ส่วนมือขวาถูกฟันขาดกระเด็นห่างศพประมาณ 1 เมตร ส่วนผู้เสียชีวิตรายที่สองเป็นบุตรชายผู้ตายรายแรก ทราบชื่อ คือ นายจันทยากร มีบาง อายุ 41 ปี สภาพศพนอนคว่ำหน้า ลักษณะคล้ายกระเสือกกระสนหนีเอาชีวิตรอด มีแผลถูกฟันด้วยของมีคม บริเวณต้นคอเกือบขาด รวมถึงใบหน้า และตามลำตัวมีแผลฉกรรจ์หลายจุด เลือดนองเต็มพื้น ส่วนหลานชายอายุ 16 ปี รอดชีวิต และอยู่ในที่เกิดเหตุ

เบื้องต้นตำรวจทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือสามีของนางจิต ทราบชื่อคือ นายเวช บับพาน อายุ 65 ปี เป็นชาว อ.คำตากล้า จ.สกลนคร หลังเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ซาเล้งไปติดต่อขอมอบตัว ที่ สภ.นาหว้า พร้อมนำอาวุธมีดตะขอยาวประมาณ 1 เมตร ที่ใช้ก่อเหตุติดตัวมาด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไว้ทำการสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว

จากการสอบสวนนายเวช ให้การรับสารภาพว่า ตนแต่งงานใหม่อยู่กินกับนางจิตตั้งแต่ประมาณปี 2532 โดยนางจิตมีลูกติด 1 คน คือ นายจันทยากร มีบาง ตนมีทำอาชีพทำไร่ ทำนา เลี้ยงโคกระบือ หารายได้จุนเจือครอบครัว ส่วนนายจันทยากรลูกเลี้ยงพอโตก็ไปทำงานที่กรุงเทพฯ แต่งงานมีลูกชาย 1 คน และเอาหลานมาให้เลี้ยง ตั้งแต่อายุประมาณ 7-8 เดือน จนกระทั่งเมื่อปีที่ผ่านมา นายจันทยากรได้กลับมาทำงานที่บ้าน ช่วยเหลือครอบครัวทำการเกษตร เพราะอยากมาดูแลแม่และลูกชายที่เคยเอามาให้เลี้ยง ส่วนภรรยาของนายจันทยากรนั้นยังทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ โดยก่อนนี้ตนและนายจันทยากรไม่มีปัญหากันมาก่อน แต่ภายหลังตนได้นำเงินที่สะสมมาจากการทำเกษตร ไปซื้อที่นาจำนวน 4 ไร่ เมื่อปีที่แล้ว เป็นเงิน 1.2 แสนบาท เพื่อหวังเก็บมาเป็นมรดกไว้ทำกิน สุดท้ายเกิดปัญหากันขึ้น หลังจากนางจิตขอให้ตนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นชื่อของนายจันทยากร ถึงแม้ตนไม่พอใจแต่ก็ยินยอม เพราะไม่อยากมีปัญหา พอหลังจากโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งหมดให้แล้ว กลายเป็นปมขัดแย้งในครอบครัว เนื่องจากลูกเลี้ยงพยายามจะขับไล่ตนออกจากบ้านไม่อยากให้อยู่ ดุด่าว่ากล่าวสร้างปัญหาสารพัด แต่ตนอดทนมาโดยตลอด จนกระทั่งก่อนหน้านี้ นายจันทยากรได้ดุด่าไล่ตนออกจากบ้านให้กลับไปอยู่บ้านเกิดที่ จ.สกลนคร ทำให้ตนเก็บกดปัญหา

“หลังกลับจากทำนา นายจันทยากร พยายามพูดจาถากถางเสียดสีว่าตน ทำให้ตนสุดทนโมโหสุดขีด ทั้งที่ทำงานเก็บเงินด้วยน้ำพักน้ำแรง จนซื้อที่ไว้ให้ 1.2 แสนบาท ซ้ำร้ายยังยอมโอนกรรมสิทธิ์ให้ไปเรียบร้อย แต่ยังมาขับไสไล่ส่งอีก จนเกิดอารมณ์ชั่ววูบ ตัดสินใจคว้ามีดตะขอ เดินเข้าไปฟันลูกเลี้ยงไม่ยั้ง หวังฆ่าให้ตายจะได้จบปัญหา ช่วงเกิดเหตุเมียเข้ามาห้าม ในใจคิดว่าจะเอาอาวุธมาช่วยลูกเลี้ยง จึงตัดสินใจฟันไม่ยั้งเช่นกัน จนนอนแน่นิ่ง พอตั้งสติได้ว่าเสียชีวิตแล้วทั้งคู่ เหลือหลานชายอายุ 16 ปี ที่อยู่หลังบ้าน วิ่งออกมาและวิ่งหนีไป ตนจึงตัดสินใจขับรถซาเล้ง พร้อมเอาอาวุธก่อเหตุติดตัวมาด้วย เพื่อมอบตัวกับตำรวจ เพราะยอมรับทำไปเพื่อจบปัญหาและขอชดใช้กรรมในคุก และรับไม่ได้กับปัญหาครอบครัวที่เกิดขึ้น ส่วนหลานชายอายุ 16 ปีนั้น ที่รอดชีวิตยอมรับเพราะรักเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยคิดจะฆ่าตั้งใจจะฆ่าแค่เมียกับลูกเลี้ยง เพื่อจบปัญหาเพียงเท่านั้น” นายเวช สารภาพ

ที่มา : https://www.thairath.co.th

แสดงความเห็น

comments