ยิงยางรถสกัดคาสี่แยก รวบผัวเมียค้ายาบ้า ยึด1.4หมื่นเม็ด-โพยชื่อลูกค้า

0
1,725 views

 

ตร.ปิดล้อมรถต้องสงสัย ก่อนยิงยางสกัดคาแยกไฟแดง ที่ร้อยเอ็ด รวบผัวเมียค้ายาบ้า ยึด 1.4 หมื่นเม็ด พร้อมโพยรายชื่อลูกค้า เร่งขยายผล …

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ก.ค.60 พ.ต.อ.ประวิทย์ โทหา ผกก.สภ.โพธิชัย จ.ร้อยเอ็ด อดีตหัวหน้าชุดป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.ร้อยเอ็ด ได้รับข้อมูลจาก ชปส.ภ.4 ว่า มีเครือข่ายยาบ้ารายใหญ่ของภาคอีสาน ใช้รถยนต์อีซูซุ ดีแม็ก สีดำ แบบ 4 ประตู ทะเบียน กง 968 นครพนม เป็นพาหนะ นำยาบ้าจำนวนหนึ่ง จาก อ.บ้านแพง จ.นครพนม มุ่งหน้าไปส่งลูกค้าในหลายจังหวัดภาคอีสาน โดยใช้เส้นทางผ่าน อ.โพนทอง และ อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

จากนั้น พ.ต.อ.ประวิทย์ โทหา จึงรายงานให้ พล.ต.ต.สมชาย นุ่มโต ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด ทราบ แล้วสั่งการให้ พ.ต.ท.ภากร สุขประเสริฐ หัวหน้า ชปส.ภ.จว.ร้อยเอ็ด นำกำลังตำรวจ พร้อมประสานทุก สภ. ให้ช่วยสกัดรถยนต์คันดังกล่าว

กระทั่งเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบรถต้องสงสัยคันดังกล่าว กำลังจอดติดไฟแดงที่สี่แยก หน้าร้านเอ็มเจมอเตอร์ บ้านหมู่ที่ 1 ต.กลาง อ.เสลภูมิ เจ้าหน้าที่มาทัน จึงกระจายกำลังเข้าล้อมรถคันดังกล่าว เมื่อคนขับรถต้องสงสัย เห็นดังนั้น จึงขับถอยหลังเพื่อจะหนี ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้ปืนยิงล้อหลัง กับล้อหน้ารถด้านขวาแตก ก่อนใช้เครื่องขยายเสียง ประกาศให้คนในรถมอบตัว

โดยมี น.ส.ละมัยพร เนตตาสาร อายุ 27 ปี ชาว อ.บ้านแพง จ.นครพนม คนขับ พร้อมด้วย นายอดุลย์ วงษ์ตาธรรม อายุ 38 ปี ชาว อ.บ้านแพง จ.นครพนม คนโดยสาร ซึ่งทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากัน ลงมาจากรถ

จากนั้นตำรวจเข้าทำการตรวจค้นภายในรถ พบกระเป๋าหนังสีดำ แบบสะพายวางอยู่เบาะนั่งด้านหลังที่นั่งคนขับ ตรวจภายในกระเป๋า พบยาบ้าจำนวน 7 มัด รวมยาบ้าทั้งหมด 14,000 เม็ด และแผ่นกระดาษโพยชื่อลูกค้า ซึ่งกระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน และ จำนวนยาบ้าที่สั่งซื้อ จึงยึดเป็นของกลางพร้อมนำตัว น.ส.ละมัยพร และ นายอดุลย์ ไปสอบสวนที่แผนกป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.ร้อยเอ็ด

เบื้องต้น น.ส.ละมัยพร และ นายอดุลย์ ให้การรับสารภาพอ้างว่า นายสมภพ หรือ อ้วน (ขอสงวนนามสกุล) ชาว อ.บ้านแพง จ.นครพนม เป็นคนจ้างให้เอายาบ้าไปส่งให้ลูกค้า ตามจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน โดยได้ค่าจ้างเที่ยวละ 130,000 บาท แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับได้ก่อน

จากนั้น ช่วงเย็น เจ้าหน้าที่จึงนำ น.ส.ละมัยพร และ นายอดุลย์ ไปตามนัดลูกค้า แต่ปรากฏว่า ไม่พบผู้ร่วมกระทำความผิด คาดว่าจะไหวตัวทัน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนขยายผล เพื่อติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการ มาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.

ที่มา : https://www.thairath.co.th

แสดงความเห็น

comments