รมว.คมนาคม ลงพื้นที่ นครพนม รับฟังความคิดเห็น ยันปี 67 เปิดใช้ รถไฟรางคู่ อนุมัติแล้ว กว่า 6 หมื่นล้าน ยาวกว่า 300 กม. หนุนเศรษฐกิจท่องเที่ยว

0
678 views

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2562 ณ ห้องประชุมโรงแรมฟอร์จูนริเวอร์วิวนครพนม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะ เป็นประธาน เปิดการประชุมสัมมนาเพื่อสร้างการรับรู้ และสร้างความเข้าใจ เกี่ยวกับการพัฒนาด้านการคมนาคมขนส่ง โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม และร่วมปาฐกถาพิเศษ เพื่อนำเสนอข้อมูลให้ประชาชนได้ทราบถึงความก้าวหน้าของการพัฒนาโครงการ ตลอดจนการแลกเปลี่ยน รับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินโครงการ เกี่ยวกับการพัฒนาด้านการคมนาคมขนส่ง ในพื้นที่จังหวัดเป้าหมาย มี ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด มุกดาหาร และนครพนม โดยมี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำข้าราชการ เจ้าหน้าที่ จากหน่วยงาน ภาครัฐ เอกชน และตัวแทนจากสถาบันการศึกษา สื่อมวลชน และประชาชน ร่วมการสัมมนา
ภายหลัง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ ตรวจสอบ ติดตามแผนการพัฒนา เส้นทางคมนาคม ในพื้นที่ จ.นครพนม โดยได้มีการลงพื้นที่ ไปตรวจเยี่ยม รับทราบปัญหา เกี่ยวกับการวางแผนงานรองรับการพัฒนา ขยาย ท่าอากาศยาน สนามบินนครพนม รองรับความเติบโตด้าน เศรษฐกิจการท่องเที่ยว การค้าการ ลงทุน เพื่อให้การดำเนินการสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
ด้าน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นับเป็นข่าวดีของพี่น้องชาว จ.นครพนม รวมถึงชาวอีสาน เนื่องจากรัฐบาล ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ เส้นทางรถไฟสายใหม่ ที่ประชาชนรอคอยกันมาอย่างยาวนาน ให้ทุกคนได้รับรู้และเข้าใจ โดยทางคณะรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม มูลค่า 66,848.33 ล้านบาท เพื่อยกระดับการคมนาคมขนส่ง พัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเข้มแข็งให้กับประชาชน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่มีการเปิดพื้นที่ใหม่ในการสร้างทางรถไฟ เพราะตลอดระยะเวลา 120 ปี มีเพียงการปรับปรุงซ่อมแซมทางรถไฟเท่านั้น สำหรับเส้นทางรถไฟทางคู่สายใหม่นี้ มีระยะทาง 355 กิโลเมตร ผ่าน 70 ตำบล 19 อำเภอของ 6 จังหวัด มีการออกแบบสถานีรถไฟไว้มากถึง 30 สถานี มีสถานีใหญ่ 4 สถานี ที่เหลือจะเป็นสถานีขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงป้ายจอดหรือจุดจอดเล็ก ๆ ที่ให้คนขึ้นลงได้ คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการได้ในปี 2567
ที่สำคัญในส่วนของ จังหวัดนครพนม นั้นนอกจากรถไฟทางคู่แล้วยังมีแผนงานโครงการในการปรับปรุงสนามบินนครพนม ทั้งตัวอาคาร ห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าและออก ซึ่งจะทำให้สนามบินแห่งนี้รองรับประชาชนตลอดจนนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 1.7-2 ล้านคนต่อปี รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่มีความทันสมัยและสอดคล้องกับระเบียบการบินพลเรือนระหว่างประเทศ เกิดสถานีขนส่งเพื่อรองรับการขนถ่ายสินค้า มีการขยายเส้นทางคมนาคมเพื่อเชื่อมโยงการเดินทาง เช่น จากจังหวัดสกลนคร เข้าสู่นครพนม ก็กำลังอยู่ระหว่างการขยายเส้นทางเป็น 4 ช่องทางจราจร ช่วงอำเภอท่าอุเทน เชื่อมกับตัวจังหวัดนครพนมก็เช่นเดียวกัน ทั้งนี้จังหวัดไหนที่รถไฟทางคู่ไม่ผ่านในอนาคต ก็จะมีการพัฒนาเพื่อเชื่องโยงเส้นทางคมนาคมเข้าด้วยกันเหมือนใยแมงมุม สำหรับปัญหาที่จะมีผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ทางโครงการก็ได้มีการศึกษา ออกแบบและสำรวจเบื้องต้นไว้แล้ว หลังจากนี้ทางการรถไฟจะมีการลงพื้นที่จัดสรรกรรมสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งจะมีการสำรวจรายละเอียดในเรื่องของจุดตัด จุดผ่านต่าง ๆ เพื่อนำมาออกแบบแก้ปัญหาให้กับประชาชนแบบแปลงต่อแปลง เพื่อให้โครงการเกิดความสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งก็ต้องขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนในการให้ข้อมูล ข้อเสนอแนะและปัญหาอื่น ๆ รวมถึงอยากฝากให้ทุกคนมีการวางแผนและเตรียมตัวให้พร้อม และในอนาคตเชื่อว่าโครงการพัฒนาดังกล่าวแล้วเสร็จ จะส่งผลดี ต่อภาคเศรษฐกิจการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว คึกคักมากอีกหลายเท่าตัว อย่างแน่นแอน

ที่มา จาก facebook คุณ : นครสารออนไลน์

แสดงความเห็น

comments