เจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลรวบเสี่ยเจ้าของร้านอาหาร-รีสอร์ตดัง นครพนม ใช้บ้านอดีตเมีย พักยาบ้า 5.6 หมื่นเม็ด ก่อนส่งขายต่อประเทศเพื่อนบ้าน พบเคยก่อเหตุเมื่อปี 58 แต่อยู่ระหว่างหนี …
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 มีนาคม 2561 พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณรายุทธ ไตรยสุทธิ์ สารวัตรสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ปราบปรามยาเสพติด และกองพิสูจน์หลักฐานนครพนม ขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 35 หมู่ 5 บ้านนางามใต้ ต.นาขาม อ.เรณูนคร จ.นครพนม
หลังสืบทราบว่า เป็นจุดพักยาบ้าของเครือข่ายค้ายาบ้ารายสำคัญ คือ นายปกรณ์ วงค์อินทร์ อายุ 47 ปี เจ้าของร้านอาหาร และรีสอร์ตชื่อดังแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม หลังเคยก่อเหตุนำยาบ้าไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อปลายปี 2558 แต่มีการหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมหลักฐานเสนอศาลจังหวัดกาฬสินธุ์อนุมัติออกหมายจับ
กระทั่งทางตำรวจสืบทราบว่า นายปกรณ์ หนีไปกบดานอยู่ต่างจังหวัด รวมถึงข้ามไปยัง สปป.ลาว เพื่อลักลอบนำยาบ้ามาพักไว้ส่งให้ลูกค้าฝั่งไทย และมีการนำมาพักไว้ในบ้านเป้าหมาย จึงวางแผนเข้าตรวจค้น พบของกลางยาบ้าซุกซ่อนไว้ในกล่องพลาสติกวางไว้ใต้ต้นไม้ บริเวณหลังบ้าน ตรวจสอบพบว่ามียาบ้าในกล่องทั้งหมด จำนวน 28 มัด ตรวจนับได้ทั้งหมด จำนวน 56,000 เม็ด ค้นในบ้านไม่พบของกลางเพิ่ม
เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านพักของแฟนสาว นายปกรณ์ แต่หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้น แฟนสาวได้ออกมาแสดงตัวว่า เคยแต่งงานกันมาก่อน และได้เลิกกันไปได้ประมาณ 2 ปี แต่ยังติดต่อพูดคุยกัน และมาขอใช้บ้านของตนเป็นที่เก็บของ โต๊ะเก้าอี้ของร้านอาหาร เนื่องจากไม่มีคนอยู่
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจนสามารถจับกุม นายปกรณ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สกลนคร ก่อนนำตัวมาสอบสวน เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ติดต่อซื้อยาบ้ามาจากชาวลาว เพื่อนำมาพักไว้รอส่งขาย อาศัยบ้านของอดีตแฟนสาว เป็นที่พักยา โดยไม่มีใครรู้ อ้างว่าขอเก็บของ ซึ่งจะมีการลักลอบข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่มาถูกจับก่อน
ด้าน พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่ตำรวจติดตามตัวมานาน หลังหลบหนีในฐานความผิดค้ายาบ้า ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และยังเป็นผู้ต้องหาค้ายาเสพติดตามหมายจับ จนกระทั่งมีการสืบสวนขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านพัก พบว่ามียาบ้านำมาพักไว้จำนวนมากถึง 56,000 เม็ด จึงได้ตรวจยึดเป็นของกลางและขยายผลไปติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้
ทั้งนี้ทางตำรวจจะต้องมีการขยายผลต่อเนื่องไปยังผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงเส้นทางการเงิน การดำเนินธุรกิจ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง หากพบว่าเชื่อมโยง จะมีการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายทันที รวมถึงบ้านที่พบของกลาง หากเกี่ยวข้อง จะมีการตรวจสอบอายัดดำเนินการตามกฎหมายทันที.
ที่มา : http://www.thairath.co.th
