นครพนม – ไม่มีที่ไหนในโลกอีกแล้ว อบต.ปลาปาก นครพนม จัดเทศกาลกิน “ต่อหัวเสือ” ส่งเสริมการอนุรักษ์ภูมิปัญญาชาวบ้านใน ทั้งการเลี้ยงต่อหัวเสือและนำมาประกอบอาหาร ตั้งเป้าโปรโมตเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ศึกษาอาชีพเลี้ยงต่อหัวเสือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ก.ย.) ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงานเทศกาลส่งเสริมการอนุรักษ์ภูมิปัญญาชาวบ้านในกระบวนการนำต่อหัวเสือมาประกอบอาหาร ประจำปี 2561 ภายหลังจากที่ อบต.ปลาปาก ได้ส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์ภูมิปัญญาชาวบ้านเกี่ยวกับการเลี้ยงต่อหัวเสือ และนำต่อหัวเสือมาประกอบอาหารมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสืบสานชีวิต วิถีชีวิต ภูมิปัญญาชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งมีอาชีพแปลก ในการเลี้ยงต่อหัวเสือ เพื่อสร้างรายได้และมีการสืบทอด มาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
อีกทั้งยังเป็นการยกระดับส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงต่อหัวเสือให้กับประชาชนในพื้นที่ให้มีรายได้ รวมถึงพัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้วิธีการเลี้ยงต่อหัวเสือได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มีความอันตรายมาก นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว รองรับเมืองเขตเศรษฐกิจพิเศษ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวศึกษาเรียนรู้ อาชีพแปลกภูมิปัญญาชาวบ้าน คนทำอาชีพเลี้ยงต่อหัวเสือขาย ให้ชาวบ้านมีรายได้เสริมอีกทาง
ภายในงานมีประชาชนมาเที่ยวชมกันอย่างคึกคัก มีการจัดนิทรรศการซุ้มของแต่ละหมู่บ้าน ควบคู่กับเวทีการแสดง การจำหน่ายผลผลิตลูกต่อหัวเสือ ประกวดทำเมนูเด็ดจากต่อหัวเสือ ให้แก่นักท่องเที่ยว ประชาชน ได้ชื่นชม รวมถึงผู้สนใจในการศึกษานำไปเลี้ยงเสริมรายได้ เนื่องจากสามารถนำลูกต่อหัวเสือไปปรุงเป็นเมนูเด็ดได้สารพัด
เช่น แกง นึ่ง ทอด คั่ว หมก ยำ และอีกหลากหลายเมนู เป็นที่นิยมรับประทานหินทางยังหายากทำให้ราคาแพง รังละ 1,000 ถึง 2,000 บาท และหากปรุงเป็นเมนูตามร้านอาหารจะมีราคาสูงถึงจานละ 150-200 บาท
นายสง่า แสงแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปลาปาก กล่าวว่า ทุกปีชาวบ้านจะเริ่มทำอาชีพเลี้ยงต่อหัวเสือ ตั้งแต่ช่วงฤดูฝน ประมาณเดือนพฤษภาคม-ธันวาคมของทุกปี โดยเริ่มออกล่าหารังต่อหัวเสือตามที่มีอยู่ในป่าธรรมชาติ ด้วยวิธีการแบบภูมิปัญญาชาวบ้านซึ่งจะออกไปหารังต่อในป่าธรรมชาติก่อนย้ายรังต่อหัวเสือมาเก็บรักษาไว้ ตามพื้นที่ว่างหลังบ้าน และตามไร่นา ทั้งนี้ เพื่อให้รังต่อหัวเสือมีความเจริญเติบโตเต็มที่ตามธรรมชาติ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู เพียงระวังในเรื่องความปลอดภัยและอันตรายจากต่อหัวเสือ เนื่องจากต่อหัวเสือถือเป็นแมลงมีพิษดุร้าย อันตรายมาก หากถูกต่อยจำนวนมากอาจถึงเสียชีวิตได้
โดยจะใช้เวลาในการเลี้ยงประมาณ 4-5 เดือน จนกระทั่งรังต่อหัวเสือโตเต็มที่พอที่จะนำออกไปขาย ชาวบ้านจะใช้วิธีรมควัน เอารังต่อมาเก็บลูกต่อขาย รวมถึงมีการประดิษฐ์ชุดล้วงรังต่อ เข้าไปล้วงเอารูปต่อโดยไม่ต้องลงควัน ป้องกันการสูญพันธุ์เพิ่มมูลค่า และสามารถเก็บผลผลิตได้หลายรอบ จะมีลูกค้าที่ชอบรับประทาน รวมถึงพ่อค้า แม่ค้า ตามตลาด ทั่วไปมาติดต่อซื้อในราคารังละประมาณ 500-1,000 บาท เพราะลูกต่อเป็นอาหารที่หากินยากคนอีสานนิยมรับประทาน และขายได้ตลอด
โดยเฉพาะในช่วงงานบุญประเพณี เนื่องจากชาวอีสานนิยมรับประทานต่อหัวเสือ เนื่องจากเป็นเมนูหายากสามารถนำไปแกง ทอด นึ่ง คั่ว ผัด ได้สารพัดวิธีตามความชอบ ที่สำคัญทุกปีจะมีการจัดงานเทศกาลส่งเสริมการอนุรักษ์ภูมิปัญญาชาวบ้านเพื่อส่งเสริมอาชีพ พัฒนาการเลี้ยง รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย และเป็นศูนย์เรียนรู้อาชีพคนเลี้ยงต่อ ส่งเสริมให้ชาวบ้านมีรายได้เสริมอีกทาง ทั้งนี้ ทุกปีชาวบ้าน จะมีรายได้จากการเลี้ยงต่อครอบครัวละหลายหมื่นบาทเลยทีเดียว
ที่มา : https://mgronline.com
