นครพนม – แม่ลูก 3 ท้องแก่ครอบครัวฐานะยากจน โร่ร้องสื่อ หมอทำหมันหลังคลอดบุตรคนที่ 3 ผิดพลาด เกิดหมันหลุดตั้งท้องคนที่ 4 ซ้ำลูกชายคนที่ 3 ป่วยพิการทางสมอง ไปร้องขอเยียวยาต่อโรงพยาบาลนครพนม กลับไม่รับผิดชอบ อ้างใช้สิทธิประกันสังคมชำระค่าทำคลอด และทำหมันจึงจ่ายเงินเยียวยาให้ไม่ได้
นางวาสนา ตะวงค์ อายุ 35 ปี อยู่ บ้านเลขที่ 96 หมู่ 13 บ้านผึ้ง ตำบลบ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ได้เข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว ว่า ตนได้ทำหมันหลังคลอดลูกคนที่ 3 เมื่อประมาณ 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา โดยแพทย์โรงพยาบาลนครพนม เป็นผู้ทำให้หลังจากคลอดบุตรชายคนที่ 3 ได้เพียง 2 วัน ซึ่งตนได้ใช้สิทธิประกันสังคม ชำระค่าทำคลอด และรับสวัสดิการต่างๆ หลังกลับบ้านเลี้ยงลูกตามปกติ และเมื่อลูกโตขึ้นมากลับพบอาการผิดปกติ โดยแพทย์บอกว่า เด็กมีพัฒนาการทางสมองช้ากว่าเด็กปกติ ภายหลังเอกซเรย์สมองดูพบว่า เกิดอาการพิการทางสมองเข้าข่ายเป็นผู้พิการทางสมอง
ตนได้เลี้ยงดูลูกมาตลอด จนขณะนี้อายุได้ 1 ปี 6 เดือนแล้ว ก็ยังไม่สามารถเดิน หรือพูดได้ แต่กลับมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อ 4 เดือนก่อน ตนมีอาการหอบ และเหนื่อยง่าย จึงไปโรงพยาบาลแพทย์แจ้งว่า ตนตั้งครรภ์ได้ 4 เดือนแล้ว ซึ่งตนได้โต้แย้งกับแพทย์ว่า ตนทำหมันแล้วจะท้องได้อย่างไร แพทย์จึงได้อัลตราซาวนด์ให้ดูก็พบว่า เด็กในท้องมีพัฒนาการเป็นทารกแล้วจริง โดยแพทย์ให้ตนตัดสินใจว่าจะเอาไว้ หรือจะทำแท้ง ทางแพทย์จะดำเนินการให้
หลังจากปรึกษากับสามี และญาติแล้ว มีความเห็นว่า ให้เอาเด็กไว้ เพราะเด็กโตมากแล้ว จึงไม่ทำแท้ง แต่ได้เดินทางไปร้องต่อสาธารณสุขจังหวัดนครพนม เพื่อขอรับเงินเยียวยาจากการผิดพลาดของแพทย์ โดยตอนแรกเจ้าหน้าที่แจ้งว่า จะได้รับเงินเยียวยาแน่นอน แต่ภายหลังกลับแจ้งว่าตนใช้สิทธิประกันสังคมตอนทำหมัน จึงจ่ายเงินค่าเยียวยาให้ไม่ได้ ตนจึงไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครพนม หลังรับเรื่องเจ้าหน้าที่ติดต่อให้ไปคุยกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนครพนมอีก ซึ่งคำตอบก็ยังเป็นเช่นเดิม
“ตนออกมาเรียกร้องก็หวังเพียงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบในการกระทำบ้าง เพราะปัจจุบันครอบครัวลำบากมาก มีภาระเยอะ มีเพียงสามีตนทำงานเลี้ยงครอบครัว ตนไม่สามารถออกไปหางานทำได้เนื่องจากต้องดูแลลูกคนเล็กที่พิการมาแต่เกิด ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มิหนำซ้ำอีกไม่นานจะมีอีกชีวิตเกิดมาอีก” นางวาสนา กล่าวและว่า
ทั้งที่ พ่อแม่ยังไม่พร้อมเลี้ยงดู ทุกวันนี้อยู่ในสภาวะลำบากมาก ต้องเลี้ยงดูลูกชายที่พิการทางสมอง ทั้งตั้งครรภ์ใกล้คลอดไม่กี่วันข้างหน้านี้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเยียวยาความผิดพลาดที่เกิดขึ้นต่อครอบครัวของตนด้วย
ที่มา : http://www.manager.co.th
