เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2562 เวลา 10.00 น. บริเวณศาลากลางจังหวัดนครพนม ชาวบ้านจาก 3 หมู่บ้าน 2 ตำบล ประกอบด้วยบ้านห้วยพระ หมู่ที่ 9 หมู่ที่ 14 ต.ท่าจำปา และบ้านคำฮาก หมู่ 10 ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน ประมาณ 200 คน ได้มารวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากพร้อมยื่นหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ที่ดินออกโฉนดทับที่ทำกินของชาวบ้านและที่สาธารณะต่อ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เนื่องจากกรณีมีเรื่องพิพาทเกี่ยวกับการครอบครองที่ดินของนายทุน เพราะมีการออกโฉนดทับที่ดินสาธารณประโยชน์ และบางส่วนทับที่ดินทำกินของชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้าน ปรากฎว่า ผวจ.นครพนม มีราชการด่วนที่จังหวัดสุรินทร์ จึงมอบหมายให้นายนิติพัฒน์ ลีลาเลิศแล้ว ปลัดจังหวัดฯ เป็นผู้รับแทน
นายพันธ์ ชมภูพระ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 เป็นตัวแทนของชาวบ้านนำป้ายไวนิลที่เป็นภาพถ่ายจากดาวเทียม ระบุตำแหน่งที่ตั้งของโฉนดที่นายทุนเข้าครอบครองชี้แจงต่อหน้าปลัดจังหวัดนครพนม และนายไชยวุฒิ วัชเรนทร์สุนทร รักษาการ ผู้อำนวยการสำนักงานศูนย์ดำรงธรรมฯ ว่า มีการออกเอกสารสิทธิ์ทับลำห้วยสาธารณะ และบางแห่งเข้าไปยึดที่ดินสาธารณะ ซึ่งเป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์อยู่เกาะกลางลำห้วย แต่พลิกแพลงสามารถออกโฉนดได้ทั้งเกาะโดยในภาพถ่ายทางอากาศยังได้แสดงถึงตำแหน่งของโฉนดที่ดินหลายแปลงรุกล้ำลงไปในหนองน้ำสาธารณะหมดทั้งแปลงเลยก็มี
ขณะเดียวกันนายวรากร ปานเพชร จ่าจังหวัดนครพนม ผู้เคยสอบสวนเรื่องนี้มาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เผยต่อที่ประชุมว่า ครั้งนั้นหลังได้รับเรื่องร้องเรียนก็ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบมีการบุกรุกที่ดินสาธารณะและที่ดินของชาวบ้านจริง และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาในขณะนั้นทราบทั้งหมดแล้ว แต่ก็คาราคาซังมาจนถึงปัจจุบัน
ด้านนายพงษ์ภาณุ พิมลภัทรกุล เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม ที่เพิ่งย้ายมาดำรงตำแหน่งไม่ถึง 2 เดือน ก็รับปากจะลงไปดูรายละเอียดย้อนหลังอีกครั้ง แต่ขณะนี้เรื่องนี้ได้ถูกส่งถึงอธิบดีกรมที่ดินแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มีคนของรัฐบางคนคอยช่วยเหลือนายทุน อ้างการที่นายทุนแจ้งขอรังวัดสอบเขตที่ดินเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อแสดงความจริงใจในการที่จะคืนส่วนที่เป็นสาธารณะ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงหากถือครองโฉนดแล้วไม่จำเป็นต้องขอรังวัดสอบเขตอีกก็ได้ แต่ตรงกันข้ามพอมีชาวบ้านไปดูการรังวัดเพื่อสอบเขตครั้งนั้น นายทุนกลับมีหนังสือร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมนครพนม โดยกล่าวหาว่า ถูกชาวบ้านรังแกพูดจาให้ร้ายทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จึงขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานราชการให้ช่วยดำเนินการกับแกนนำชาวบ้านที่ประกอบด้วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรวมถึงสารวัตรกำนันด้วย ขณะเดียวกันก็มีข้าราชการในพื้นที่อำเภอท่าอุเทน เด้งรับลูก มีหนังสือถึงผู้ใหญ่บ้านที่เป็นแกนนำ ให้ทำหนังสือชี้แจงตามที่นายทุนร้องเรียน โดยไม่ได้ระบุวันที่ว่าจะให้ส่งคำชี้แจงวันไหน ซึ่งชาวบ้านได้ตั้งข้อสังเกตุว่าอาจจะเป็นกลวิธีเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาตกหลุมพราง เพื่อดำเนินการทางวินัยการปกครองที่ตนมีอำนาจอยู่นั่นเอง
ที่มา : https://www.77kaoded.com