นครพนม – ชุดลาดตระเวน นรข.จับนายหน้าค้ามนุษย์ข้ามชาติ ขณะกำลังนำพาคนลาวขึ้นฝั่งแม่น้ำโขง แต่ขณะสื่อเข้าทำข่าวถูกคนชื่อ “บอสส์” ไม่ยอมให้เผยแพร่ข่าวสาร อ้างกระทบกระเทือนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แฉเบื้องลึกคนมีสีเป็นหัวหน้าขบวนการ ลำเลียงแรงงานกระจายไปตามใบสั่ง งุบงิบให้เป็นคดีแค่หลบหนีเข้าเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 9 ธ.ค.2559 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ชปพ.นรข.) โดย ร.ท.อัญเชิญ วงษ์รอด ผู้ควบคุมเรือลาดตระเวนลำน้ำ สน.เรือธาตุพนม จ.นครพนม จู่โจมจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ได้บริเวณแปลงผักริมแม่น้ำโขง หน้าวัดสุพรรณกมลาวาส บ้านกลางน้อย ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.นครพนม จับกุมตัวนายหน้าเป็นคนไทย คือ นายหนูพัฒน์ อินทร์เลิศ อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 59 หมู่ 7 ต.บ้านกลาง พร้อมกับชาวต่างด้าวเป็นคนลาวเป็นชาย จำนวน 8 คน มีกระเป๋าเสื้อผ้ามาคนละใบ ประกอบด้วย 1.ท้าวปีง ไชยวงศ์ อายุ 23 ปี
2.ท้าวเล โคตรทัน อายุ 35 ปี เป็นชาวบ้านเชียงหวาง เมืองหนองบก แขวงคำม่วน สปป.ลาว
3.ท้าวทองลี สีสะวัน อายุ 17 ปี ชาวบ้านหนองแซง เมืองโบรพา แขวงคำม่วน
4.ท้าวแดง มณีทอง อายุ 20 ปี
5.ท้าวพร เพชรมณีวัน อายุ 27 ปี
6.ท้าวเรือง ไม่ทราบนามสกุล
7.ท้าวสา พักดี อายุ 18 ปี และ
8.ท้าวดาบ แสงมณี อายุ 21 ปี เป็นชาวบ้านเลา เมืองสะหวันนะเขต แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว
จึงนำตัวทั้งหมดไปยัง สน.เรือธาตุพนม
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ผู้สื่อข่าวติดตามไปยัง สน.เรือธาตุพนม เพื่อถ่ายภาพเก็บข้อมูลทำข่าว ปรากฏว่า มีบุคคลโทรศัพท์มายังทหารเรือนายหนึ่ง มีนามเรียกขานว่า “บอสส์” สั่งเจ้าหน้าที่ไม่ให้ข่าวแก่สื่อมวลชน อ้างว่าจะกระทบกระเทือนเกี่ยวกับความมั่นคงกับประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมขอร้องสื่ออย่านำเสนอออกสู่สาธารณะ
นายหนูพัฒน์ นายหน้าคนไทยถูกนำตัวไปไว้ในสถานที่แห่งหนึ่ง ส่วนชายคนลาวทั้ง 8 คน ถูกนำมานั่งรอการส่งต่อไปยัง ตม.นครพนม บริเวณศาลาภายใน สน.เรือธาตุพนม ขณะกำลังถ่ายรูปบันทึกภาพผู้หลบหนีเข้าเมืองไว้เป็นหลักฐานไม่มีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยอมเข้ากล้องแม้แต่คนเดียว ซึ่งผิดปกติจากการจับกุมทั่วๆ ไป
หลังเจ้าหน้าที่ไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูล ผู้สื่อข่าวจึงไปสอบถามแหล่งข่าวเชิงลึกในพื้นที่ ทราบว่าเป็นขบวนการค้ามนุษย์รายใหญ่ของจังหวัด มีข้าราชการผู้กว้างขวางในพื้นที่เป็นหัวหน้าแก๊ง รู้จักกันในนาม “สารวัตร บ.” โดยมีนายหนูพัฒน์ ทำหน้าที่เป็นแขนเป็นขา รอรับคนลาวทั้งหมดริมฝั่งแม่น้ำโขง จะได้ค่าหัวคนละ 300 บาท จากคนลาวที่ขับเรือข้ามฟากมาส่งที่จุดนัดหมายท่าน้ำหน้าวัดสุพรรณกมลาวาส
ทั้งนี้ หากเล็ดลอดไปได้จะนำส่งให้ “สารวัตร บ.” เพื่อส่งต่อไปยังสถานประกอบการที่ต้องการแรงงานเหล่านี้
เป็นที่น่าสังเกตว่า หลังมีการจับกุมมีความพยายามให้เป็นคดีหลบหนีเข้าเมืองธรรมดาทั่วๆ ไป อ้างว่าตัว นายหนูพัฒน์ จะเก็บไว้เป็นนกต่อเพื่อสาวถึงตัวการใหญ่ในอนาคต
ที่มา : http://www.manager.co.th
